สาวเล่าประสบการณ์ป่วยโรคไตต้องล้างไตบ่อยๆ จนได้เปลี่ยนไตมาครบ 1 ปี

คุณ เป๋าตังค์เป๋าตุง สมาชิกเว็บไซต์พันทิปได้ออกมาตั้งกระทู้เล่าประสบการณ์การป่วยเป็นโรคไต และถึงวันที่ได้เปลี่ยนไตโดยจากโพสต์นั้นระบุว่า 'เปลี่ยนไต ครบ 1 ปี แฮปปี้มากๆเลย (เรื่องเล่ายาวทั้งปี)'

จุดเริ่มต้นของโรคไต ย่อๆคือ

-ตรวจพบโรคไตในปี 2552 มาเจอก็ระยะ 4 กันเลยทีเดียว(3ปี) สาเหตุน่าจะมาจากความดันสูง งานหนักเครียด กินหนัก

-ล้างไตทางช่องท้อง ตค. 2555- พค.62 รวม7ปี

-เริ่มสมัครเข้ารับการปลูกถ่ายไตจากสภากาชาดไทย ที่รพ.ศิริราช ปี55 มาจนถึงวันที่ 2 พค 62 (ได้เปลี่ยนไต) อ่านได้ที่กระทู้ ได้เปลี่ยนไตแล้วนะ

ย้อนเหตุการณ์ช่วงแรกสักนิด อย่างที่ทุกคนรู้ว่าโดนเรียกให้มาเปลี่ยนไตบ่อย แต่ได้คิว 2 คิว 3 มั่ง ก็หลุด เพราะคิว 1 ได้ไป คราวนี้ได้แน่ พอมีโทรศัพท์เบอร์แปลกโทรเข้ามาตอน 7 โมงเช้า ใจเต้นมาก คงไม่ใช่เบอร์ส่งของนะ 555 (ย้อนกลับไปดูเหตุการก่อนเปลี่ยนไตได้ที่กระทู้เปลี่ยนไตแล้วนะ) พอเค้าบอกได้ไต เบอร์1 รีบมาด่วน อาบน้ำแต่งตัวรีบมาเลย ถึงรพเกือบเที่ยง จากนั้นก็ไปเจาะเลือด เอ็กซเรย์ ตรวจคลื่น ไฟฟ้า ผลออก17น. ก็ระทึกอีกรอบจะเจออะไร ปรากฏผ่านหมด เรียกว่าพร้อมสมบูรณ์ เค้าให้อาบน้ำสระผมอีกครั้ง ขับถ่ายให้เรียบร้อย พอ1ทุ่มก็เข็นเข้าห้องผ่าตัด นอนกางแขนกางขา ใจระทึก สวดมนต์ก่อนดมยาหลับไป สวดมนต์ยังไม่จบท่อนแรกเลย ยังไม่ทันทำอะไรก็หลับซะแล้ว พอผ่าเสร็จ เข็นออกมาพัก เค้าก็จะค่อยๆเรียกให้ตื่น ก็พยายามตื่น แต่ไม่ตื่น หลับตาพยักหน้า หงึกๆ แต่หลับ เค้าก็เข็นมาห้องปลอดเชื้อ หลับๆตื่นๆเพราะโดนวัดความดันทุกชม. น่าดีใจมาก ฉี่ออกทันที ถล่มทลาย ได้ไตดีมาก

วันที่สองก็ให้ลุกนั่ง ให้ยืนข้างเตียง โอยเจ็บมาก วัดความดันทุกชม หลับๆตื่นๆทั้งวันทั้งคืน และยังคงติดเครื่องติดตามคลื่นหัวใจไว้ต่อเนื่อง 3 วัน

ยากดภูมิครั้งแรก

ยาหลังอาหารเช้า

วันที่ 3 ก็ลุกนั่ง ยืนข้างเตียง เดินมานั่งที่เก้าอี้ข้างเตียง วัดความดันทุกชม หลับๆตื่นๆตลอดวัน

วันที่ 4 (ได้มือถือแล้วไม่เหงาแล้ว) แต่โดนให้ออกจากห้องปลอดเชื้อไปอยู่ห้องรวม อ้าว ไงงั้นล่ะ โดนออกคนแรก เพราะเตียงเต็ม มีคนผ่าไตมาเพิ่มอีกคน เราดูดีสุดเลยออกก่อน(มั้ง)

วันที่ 5 ลุกไปห้องน้ำเอง ล้างหน้าแปรงฟันได้ อาบน้ำเช็ดตัวได้

วันที่ 6 ก็กินนั่งนอน เล่นมือถือ นอนไม่หลับ เพราะแสงไฟส่อง เสียงดัง คนเยอะ พยาบาลเดิน แปลกที่ ต้องขอยานอนหลับ ยาแก้ปวด

วันที่ 7 ก็นอนๆเล่นๆไป ค่าไตก็ลดลงมาเรื่อยๆ แต่ถ่ายบ่อยจนงง มีผลจากยาเซลเซฟทำให้ถ่ายบ่อย เลยเดินสนุกเลยได้ออกกำลังกาย 555ขับถ่ายวันละ5-6ครั้ง

วันที่ 8 หมอบอก ให้กลับบ้านดีกว่า อยู่นานไม่ดี ห้องรวมคนมาเยี่ยมญาติเยอะ กลับไปพักที่บ้านดีกว่า ค่อยมาตรวจเลือดใหม่

วันที่ 9 (11พค62) วันที่9 ได้ก้าวออกจากรพ. เป็นบุญโชคจริงๆ ผลเลือดสวยงาม ฉี่ออกวันละ3ลิตรเลย น้ำหนักค่อยๆลง

เพราะหมอให้กินน้ำน้อยลงหน่อยเพื่อดึงน้ำในตัวออกก่อน ทุกอย่างเพียงพอที่จะไม่ต้องนอนต่อแล้ว ไม่จำเป็นต้องมาทนนอนไม่หลับ เชื้อจากคนมาเยี่ยมเตียงอื่น กลับบ้านดีกว่า เดี๋ยวมาตรวจทุกอาทิตย์อยู่แล้ว

ค่าไต9วันนี้เหลือ Cr 4.2 ลงดีจริงๆ เลยขอผลจากหมอมาดูต่างหน้า สายๆก็ไปอบรมการกินอยู่ใช้ชีวิตใหม่ กินข้าวกินยาเป็นเวลา คงต้องปรับตัว ไม่นอนดึกตื่นสายข้าวเช้าเป็นข้าวเที่ยงอีก เคลียร์เอกสารเรียบร้อย รอคนมารับ เย็นๆคงถึงบ้าน

เปลี่ยนไตได้ 10 วัน (12พค62) อยู่บ้านแล้วจ้า ฮือ แม่ไม่อยู่หมอนัดไปผ่าเข่า ไปเฝ้าแม่ก็ไม่ได้ จ้างคนไปเฝ้า แถมต้องลุกทำกับข้าวกินเองอีก เด็ดจริงๆ ผ่า 10 วันลุกทำกับข้าวจ้า หลับสบายมากแต่ลุกฉี่กลางคืน 5 รอบ เดินไม่ไหวต้องใช้กระดนมาวางข้างเตียงละ นอนบ้านตัวเองนี่ ไม่มีพยาบาลมาคอยวัดไข้ วัดความดันทุกชม. เดินได้คล่องเลย ชงกาแฟปิ้งขนมปังต้มไข่เองได้ นั่งได้นานขึ้นกินจนเสร็จ แต่ยืนล้างจานไม่ไหว555 งอแงๆไปนอนต่อ 555 และได้มีตารางชีวิตใหม่ ที่ต้องดำเนินชีวิตตามเวลา คือ ก่อนกินยากดภูมิ 2 ชม.ห้ามกินอาหาร

7.00น. กินยากดภูมิ

8.00น. กินข้าวเช้า

12.00น.กินข้าวกลางวัน

17.00น.กินข้าวเย็น (เว้น 2ชม.เพื่อกินยากดภูมิ)

19.00น.กินยากดภูมิ

21.00น.กินยาก่อนนอน

เด็กดีนอน4ทุ่มล่ะ ดูเป็นโรบอทยังไงไม่รู้555 ตั้งเวลาปลุกกันเลย กลัวลืม ยาเยอะมากรวมๆ60กว่าเม็ด

กราฟเวลา 24 ชม.

เปลี่ยนไตได้ 11 วันแล้ว (13พค62) วันนี้ไม่ค่อยเจ็บแผลมากแล้ว เดินคล่อง รู้สึกว่าจะอยู่นิ่งไม่ได้ ไอ้นู่นไอ้นี่วางผิดที่ผิดทาง นอนๆก็ต้องลุกมาจัด มาเก็บ เจอฝุ่นเอ้าเช็ดอีก ลุกนั่งปวดแผล นอนต่อ กางถุงใหญ่ๆ ใบนึง อะไรไม่ใช้ตัดใจโยนทิ้ง เลิกผีบ้าสะสมซะที แม่ไม่อยู่ไปผ่าเข่า 9 วัน ถามว่าใครต้องทำกับข้าว ก็คงต้องเป็นแม่ครัวแทนคนป่วย มามัวสำออยไม่ได้แล้ว พฤษภาสะพรึงจริงๆ แม่ลูกมาผ่าพร้อมกัน ไม่ทันตั้งตัว ดีว่าผูกมิตรไว้เยอะ โทรให้คนในตลาดมาส่งของสดที่บ้านให้หน่อย หมูไก่ผักปลาก็ว่ากันไป ตื่นมาก็มานั่งจัดยาหลายสิบชนิด กางตารางกันเลยกลัวหลงลืม ไม่เคยกินยามากขนาดนี้ กะละมังยาใบใหม่ จริงๆก็ใช้ชีวิตเกือบปกติ ไม่ต้องตื่นมาล้างไตอะไรอีก สบายๆ แต่สิ่งที่ต้องทำคือ ทำแผลค่ะ เนื่องจากว่าหมอบอกให้ทำแผลเองจะได้ไม่ต้องไปๆมาๆที่รพ.เพราะกลัวจะติดเชื้ออะไรจากโรงพยาบาล ก็ให้ซื้อชุดทำแผล น้ำเกลือ เบตาดีน และที่แปะแผลมาให้ครบ ซึ่งเราบอกว่ามีอยู่แล้ว เพราะต้องทำแผลสายล้างไตอยู่ด้วย หมอก็โอเค เราก็สบายไม่ต้องแต่งตัว เดินทางไปทำแผลที่รพ.ทุกวัน ก็ทำได้นะ แผลสะอาดแห้งดีซะด้วย

กะละมังยาหลายชนิด

เปลี่ยนไตได้ 12 วัน (14พค62) มีนัดกลับไปตรวจค่าไต พอถึงรพ.รอนานขี้เกียจนั่ง ปวดพุงมาก นั่งนานไม่ได้ ขอรถเปลนอน นอนรอยาวไป เพิ่งรู้ความยุ่งยากในการใช้รถเข็นเปลนอน จะต้องให้เจ้าหน้าที่เข็นได้ตามคิว ขึ้นลิฟต์ยังต้องไปต่อคิว ทุกอย่างคิวยาวไปหมด จะลุกเดินเข็นรถไปเองก็กลัวถูกด่าว่าเดินได้มานอนรถเข็นทำไม 555 ปวดพุงน๊อ 555 ผ่าตัดมาได้ 12 วันเอง ไม่สามารถนั่งรอหมอเป็นชม.ๆได้ ก็เลยทนรอ ต่อคิวไป นอน 6 โมงเช้า ตรวจเลือด รอตรวจได้ตรวจ 11 โมงอ่ะ คิดเอา ใครจะนั่งไหวอ่ะ รอยาต่ออีกจนบ่าย 2 ผลค่าไต ครีอาตินีน Cr. 3.04 ลงมาอีกหน่อย

ผลค่าไต 12 วัน

ไม่ค่อยได้เขียน ข้ามไปสัปดาห์ถัดไปเลยละกัน มาตรวจอีกครั้ง วันนี้มาตรวจ ผลเลือดออกมา ครีอาตินีน Cr.2.10 มือสั่นลดยาโปรกราฟ เพระระดับยาสูงไป เหนื่อยง่าย เพราะกินน้ำไม่พอ ฉี่ออกเยอะจัด โซเดียมต่ำ ฟอสต่ำ แต่พาราไทยรอยขึ้น งงเลย Kสูง งดผลไม้แป้บ อัดกล้วยหอมเยอะไป หมอสั่งหยุดยาทุกตัว กินแต่ยากดภูมิ แคลเซียมหยุด ยาความดันหยุด ยาฉีดหยุด บอกว่าอย่าไปกินยาเยอะ ปรับระดับยาแล้วคงจะดีขึ้น หายเหนื่อย มือไม่สั่นนะ แอบเห็นเจ้าของน้องบุญโชค เป็นชายหนุ่มอายุ20ปี ค่าไต 0.68 คือได้ไตดีมากแข็งแรง อยากได้ได้เท่าเจ้าของเก่าเลย

ผลค่าไต 19 วัน Cr.2.10

เปลี่ยนไต 20 วัน (22พค62) ยาที่กินวันนี้ หลังจากปรับยามาหลายรอบ

-โปรกราฟ เช้า3 เย็น3

-อิมูเซบ เช้า2 เย็น2

-เพรด 5

-ฟลูโคนาโซน 1

-โซดามินต์ 5 เม็ด 3 มื้อ

ยาอื่นหยุดทั้งหมด ความดันกลับมาปกติแล้ว ยาฉีดก็ไม่ต้องฉีดแล้ว น่าจะเป็นสัญญาณที่ดีนะ แต่น้ำหนักลงเหลือ46 แล้ว จะผอมไปไหน หมอให้กินเยอะๆก็ไม่รู้จะกินอะไร ไม่ได้กินมานานนึกไม่ออก

เปลี่ยนไต 21 วัน (23พค62) วันนี้อาการเหนื่อยน้อยลง มือสั่นน้อยลง น้ำหนักน้อยลง ความดันลง ลงๆๆ แง้ จะลงกันไปไหน กิน 5 มื้อล่ะนะ ดูแผลมั้ย ยาวมาก แห้งดี อังคารหน้าตัดคลิปออกแระ ตื่นเต้นจัง ที่ปิดๆไว้คืออะไร ไม่ต้องบอกนะ ยาวไปยันjimโน่น 555

รูปแผลที่ทำแผลเองด้วยนะ 21 วัน

เปลี่ยนไต 22 วัน (24พค62) ภูมิแพ้กลับมา วันนี้ไม่เหนื่อยแล้ว มือสั่นลดลง อาการเจ็บแผลไม่มี เดินได้ปกติ แต่นานๆก็เหมื่อยๆพุง แล้วอาการภูมิแพ้ก็กลับมา หลังจากหายไปยี่สิบกว่าปี ตอนนี้ แพ้อากาศ แพ้ฝุ่น และแพ้นมวัว หลังจากกินนม ก็จะถ่ายหลายครั้ง 4-5ครั้ง ตอนแรกนึกว่าแพ้น้ำส้ม ตอนกินก๋วยเตี๋ยว พอไม่ได้กินก๋วยเตี๋ยว ก็ยังเป็น วันไหนลองไม่กินนม ก็ถ่ายหนเดียวปกติ ลองหยุด ลองกิน มา2-3 รอบ ก็เป็นอีก มั่นใจว่าแพ้นมวัว เฮ้อ อดกัน กำลังอร่อย ตั้งแต่เป็นโรคไตก็ไม่ค่อยได้ดื่มนมวัวอร่อยๆเลย ต้องรักษามั้ย หรือแค่หยุดกินนม กินนมถั่วเหลืองแทนได้มั้ย [ads]

เปลี่ยนไต 24 วัน (26พค62) เมื่อวานไม่ได้อัพเดท เพราะมัววุ่นวาย กับการขับถ่ายวันละ5-6หน โทรถามพยาบาลงานเปลี่ยนไต บอกให้หาหมอใกล้บ้าน ก็ไม่มั่นใจ กลัวได้ยาแก้ท้องเสียซึ่งก็ไม่กล้ากินอีก เพราะท้องไม่เสีย ไม่ได้ถ่ายเหลว จึงโทรถามอาจารย์หมอ อ.บอกว่าลงตรวจพอดี รีบมาคุยกัน เอ้า ก็รีบบึ่งไปศิริราช ตื่นมาวันนี้ ขับถ่ายตอนเช้า ถ่ายมีเลือดปนออกมาอีก เฮ้อ เป็นอะไรอีกวะตู เช็คกูเกิล คือน่าจะเป็นริดสีถ่ายดีวันละ4-5หน ทำไมเป็นได้ไงอ่า ปวดหัว ก็ทำการถามหมอไปเลย พร้อมกับอาการถ่ายเหลว หมอคะ เราจะทำยังไงกับริดซี่ มีเลือดออก หมอบอก ถ่ายบ่อยจนทวารทำงานหนัก เอายาเหน็บเอา ก็เหน็บยาไป 10 วัน ก็หาย ส่วนอาหารถ่ายบ่อย อ.บอกว่าน่าจะเป็นผลจากยาอิมูเซบ ให้เจาะเลือด เช็คพวกไวรัสให้ รู้ผลวันอังคาร ยากดภูมิ ทำให้มีอาการแปลกๆตลอดเวลา ตูจะเอาชีวิตรอดมั้ยเนี่ย สภาพโดยรวมแข็งแรงดี ไม่มีเจ็บแผล เดินได้ไกลมาก ถือเป็นอารวอร์มออกกำลังกายไป

เปลี่ยนไต 25 วัน (27พค62) พรุ่งนี้พบหมอ แล้วก็ตัดแม้กที่แผลแล้ว ค่าจะลงมาเท่าไรหนอ ตื่นเต้น จะเหลือ 1 รึยัง อาการถ่ายบ่อยเหลือวันละครั้งแล้ว แต่ ยังมีเลือดปนนิดหน่อย ถ่ายซะจนตรูดพัง 555 กุ้มใจจริงๆ ผลจากยากดภูมิ เป็นอะไรที่ไม่คาดคิดได้เสมอ เหมือนจะต้องระวังตัวอย่างหนัก น้ำหนักก็ลดอีก พยายามกินข้าว กินขนม ผลไม้ นมถั่วเหลือง น้ำหนักยังลงอีก น้ำก็ดื่ม 3 ลิตร แต่ความแข็งแรงโอเคนะ แค่เรื่อง จุกจิก ถ่ายมากเอย คันตัวเอย ก็ไม่มีอะไรอีก ถือว่าชีวิตโอเคเลยล่ะ แต่ก็มีอาการมาอีกคือ พวกเชื้อราตามซอกหนีบทั้งหลาย พากันผุดเห่อ เจ็บผื่นคัน เป็นวงๆหนา แดง โอ้ย อะไรอีก ถามเภสัชก็ได้ยา คาเนสเทน มาทา ทายาๆๆวนไปค่ะ

เปลี่ยนไตวันที่ 26 (28พค62) วันนี้มีตรวจ 28 พค62 ผลออกมาค่าไต 1.48 ลงอย่างช้าๆ ค่อยๆลงให้สบายใจ วันนี้เอาแม๊คเย็บแผลออกแล้ว ไม่ความเจ็บอะไรเลย หลงกลัวซะเครียด งัดแม้คอย่างกะงัดออกจากกระดาษ หนึบๆ ผลออกมาดีก็สบายใจ ปรับลดยา เพรด 3 (เช้า) โปรกราฟ 4 เซลเซฟ 2 (เช้า/เย็น) หยุดยาบางตัวเหลือแต่ยากดภูมิล่ะ กับโซดามิ้นท์ หมอว่าโซเดียมต่ำให้กินโซดามินท์ไม่ใช่ไปกินเค็ม เออก็เพิ่งรู้
ถามหมอว่าควรฉีดยาไข้หวัดใหญ่มั้ย บอกไม่ต้องฉีด ตอนนี้ไม่มีประโยชน์ กินยากดภูมิ ฉีดเชื้อเข้ามาวุ่นวายอีก เดี๋ยวป่วย

ผลเลือด 26 วัน

เปลี่ยนไตวันที่ 28 (30พค62) เมื่อวานลืมเขียน 27 วัน จริงๆแล้ว ไม่มีอะไรให้เขียน เพราะทุกอย่าง เริ่มลงตัว อาการปกติ ขับถ่ายปกติ ลองกินนมแบบแลคโตสฟรี ก็ไม่มีอาการใดๆ แต่กลับกินได้น้อยลงอีก ไม่หิว ไม่อยากอะไร กินตามหน้าที่ เพราะจะได้กินยาให้ครบๆ เดี๋ยวครบเดือนก็จะหยุดเขียนแระ เพราะคงไม่มีอะไรน่าสนใจเท่าไร

รูปยาทุกมื้อ ที่ต้องแบ่งไว้กันลืม

เปลี่ยนไต ครบรอบ 1 เดือน (2 มิถุนายน 62) จากวันที่ 2 พค 62 ที่ได้ถูกเรียก เข้ารับการปลูกถ่ายไต ซึ่งเป็นวันที่ตื่นเต้นและว้าวุ่นมาก เพราะกังวลไปหมด กลัวก็กลัว อยากก็อยาก แต่ก็ต้องเดินหน้าต่อไป ผ่านมา 1 เดือนก็เป็นอันว่า แฮปปี้ ที่มันผ่านพ้นไปด้วยดี สุขภาพดี มีความสุข ปรับตัวได้ ไม่มีอะไรแทรกซ้อน จะมีก็เศษกรรมเล็กๆน้อยๆ เช่น เชื้อราต่างๆ ที่มันเคยเกิด เคยฝังตัวอยู่ พอกินยากดภูมิ มันก็แห่กันมา ภูมิแพ้บ้าง นิดๆหน่อยๆ แต่ก็กินยาทายาก็หาย ให้แข็งแรงพออีกนิด ก็จะไปทำบุญต่อ อุทิศให้กับเจ้าของไต และขอบุญบารมี ปกป้องเรากับน้องไตใหม่ ให้อยู่กันไปนานๆ สิ่งที่ยังเฝ้ารอต่อไปคือ ค่าไตที่รอให้ลงมาปกติการทำงานของไต 100% ไม่ถึงก็ไม่เป็นไร ตอนนี้มาได้ครึ่งทางแล้ว รออีกนิด ให้เด็กน้อยได้ค่อยๆเติบโต ขอบคุณทุกคนที่เอาใจช่วยเสมอ กำลังใจจากครอบครัวที่เหนื่อยกับเรามาตลอด และกำลังใจจากเพื่อนๆ สำคัญจริงๆ 10 ปี ไม่เคยท้อ เพราะมีกำลังใจที่ดี ร้องไห้มากี่ครั้ง เจ็บตัวมากี่หน บางครั้งก็อยากหยุด แต่ด้วยกำลังใจก็ยังจะสู้ต่อ จนมาวันนี้ได้ ขอบคุณทุกคนที่อยู่เคียงข้างกัน ครบ 1 เดือน ค่าไตลงมาปกติแล้ว Cr.1.11 คาดว่าจะลงได้อีก แต่หมอบอกพอใจ นัดห่าง 1 เดือน อนุญาตไปซื้อของห้างได้ แต่อย่าไปที่คนแน่นๆ ความดันปกติ ผลเลือดทุกอย่างปกติ ไม่มีอะไรแทรกซ้อน แฮปปี้ มีความสุข หมายเหตุ : ค่าปกติทั่วไปของ Creatinine ในผู้หญิง คือ 0.5 – 1.1 mg/dL

ผลเลือด 1 เดือน (ตรวจวันที่ 4/6/62)

เปลี่ยนไต 41 วันค่าไต ค่อยๆขยับ ลงช้าแต่ลงชัวร์ ไม่ใจร้อนเนอะ แข็งแรงดี ทุกอย่างปกติสุข ฉี่สนุกสนาน ขับถ่ายตรงเวลา แต่ไม่ปกติอีตรงที่เหนื่อยง่ายนี่แหล่ะ ฟอสฟอรัสต่ำเกิ้น ขนาดนม 2 กล่อง ถั่ววันละกระป๋อง ข้าวโพด ขนมปัง ชีส สารพัด ของที่มีฟอสเครื่องใน ตับ ของทะเล ยังไม่ขึ้น อัลบูมินต่ำอีก3.6 อาจจะอุ้มน้ำ ในขณะที่อ้วนเอา อ้วนอ้วน เดือนกว่าขึ้นมา 3 กิโล 555 กินกะนอน อ้วนเลย ออกกำลังกายเบาๆโดยการเดินรอบบ้าน 30 นาที ปวดพุงเมื่อไรก็เลิก

รูปยาที่ปรับ ก่อน 1 เดือน และ หลัง 1 เดือน

ครบรอบเปลี่ยนไต 2 เดือน 2/7/62 แข็งแรงดีไม่มีปัญหา ค่าไตลงเหลือ 0.99 สบายใจหายห่วง ห่วงแต่ฟอสฟอรัสต่ำเกิน ไม่รู้จะกินอะไรแระ ทั้งนมทั้งถั่ว ไม่ขึ้นเลย แถมอ้วนอีก ออกกำลังกายโดยการเดินรอบบ้าน วันละ 30 นาที

ผลเลือด 2 เดือน

เปลี่ยนไตครบ 3 เดือน (30กค.62) ค่าไต Cr. 0.97 สุภาพดี แข็งแรงดี แต่……… เอิ่มมม กรู เป็นข้อต่อขากรรไกรอักเสบ จากการเคี้ยวมากเกินไป มานั่งคิดเออ เคี้ยวเนื้อแดดเดียวเดือนที่แล้วบ้าเนื้อ เคี้ยวถั่วทั้งวัน ตอนนี้งดเคี้ยว งดอ้าปาก ให้กินข้าวต้มหรือของอ่อนๆ งดพูดมาก จะทำได้กี่วันวะเนี่ย 555 กรรมจริงๆ เป็นอะไรแปลกๆเนอะ 555เปลี่ยนไต 3 เดือน วิ่งแล้วค๊าบบ ทนไม่ไหวนอนอืดดดด หลังจากเดินๆๆมาหลายวัน ก็ เอ๊ะวิ่งได้มั้ย ลองวิ่ง เออได้ว่ะ 30นาที ผ่าน ก็ไม่เจ็บอะไรนะ เราเอาเท่าที่ไหว ตอนแรกก็ถามหมอนะว่า วิ่งได้มั้ย หมอไม่ห้ามอะไร ก็บอกลองดูนะ ถ้าเจ็บปวดอะไรก็หยุดวิ่ง พอลองวิ่งแล้วก็ได้อยู่

วิ่งหน้าบ้านก่อนจ้า วนไปวนมา 30 นาที

ครบเปลี่ยนไต 3 เดือน ค่าCr.97 ขยับนิดนึง ค่าการทำงานขยับขึ้นมาเป็น70% ฟอสฟอรัสต่ำเช่นเคย แก้โดยการเลิกกินนมกับอาหารแคลสูงเพราะแคลเซียมสูง ไปจับฟอสออกหมด ฮ่วย ที่อ้วนนี่เพราะนมนะยะ กับการเจอยาเพรดนิโซโลน หิวอย่างกะพายุ อยากไปหมด อร่อยไปหมด กินทั้งวัน อ้วนค่ะส่วนสุขภาพแข็งแรงดีไม่ปัญหา ช่วงนี้ก็ไปห้างซื้อของได้ ขับรถยนต์ได้แล้ว เพราะต้องเป็นตัวหลักของบ้าน ซื้อของ ซื้ออาหาร ทำงานบ้านเองแทนแม่ทุกอย่าง

เปลี่ยนไตครบ 4 เดือน แทบจะทำตัวปกติแล้ว ขับรถยนต์ได้เองแล้ว ไปจ่ายตลาดเองได้แล้ว ไม่ต้องจ้างใครซื้อของอีก ขายของออนไลน์ ส่งของเองได้แล้ว ทำงานหาเงินปกติ แต่พวกความดันอะไรต่างๆก็จะต่ำมาก ทำให้ลุกนั่งต้องระวัง มันวูบนิดๆ เพราะว่าเราฉี่เยอะมาก แถมกินไม่ทัน ค่าอะไรก็จะต่ำไปหมด เพิ่มเติมคือ ผมจะขึ้นอะไรนักหนา หยอยๆๆๆ หมดแล้วเหมือนมีเครา สุขภาพก็แข็งแรงดี ไม่มีโรคแทรกซ้อนอะไร ผลเลือดสวยงามตามท้องเรื่อง กินได้ วิ่งได้ แฮปปี้ๆ ชีวิตมีความสุข กลับมาทำมาค้าขายได้เหมือนเดิม ขายของ ส่งของ ซื้อของ ได้ด้วยตัวเอง ก็มีรายได้สบายๆ ชีวิตไม่หวือหวา กินอิ่ม นอนหลับ

ความดันประมาณนี้

วันนี้ 2 ตุลา เปลี่ยนไตครบ 5 เดือน แข็งแรง แต่อ้วนมาก คือเรื่องของเรื่อง ต้องหยุดออกกำลังกาย เนื่องจากไปผ่าเอาสายล้างไตออก วิ่งไม่ได้อีก จนกว่าจะหายเจ็บ นี่ 10 วันแล้ว ยังไม่หาย เพราะเมื่อวานไปหา หมอบอกแผลข้างนอกแห้งดี แต่ข้างในน๊านนน ยัง ถามหมอว่าทำอะไรไปบ้าง หลับไม่รู้เรื่องเลย หมอบอกว่า คว๊านพังผืด ก็ 7 ปี จะให้ราบเรียบลื่น มันคงเป็นไปไม่ได้ ยาชาอย่างแรง ก็เลยไม่เจ็บในวันแรก เดินไปลานจอดรถสบายๆ แถมยังจะไปช้อปปิ้งต่อถ้าไม่ง่วง แต่บังเอิญง่วงจากยาหลับมา เลยหลับยาวในรถนั่นแหล่ะ ตื่นอีกที 4 โมงเย็น จึงได้กลับบ้าน รอคนขับรถไปทำงาน ทิ้งเราให้ผ่าคนเดียว 555 ส่วนอาการใดๆจากการเปลี่ยนไต ตอนนี้ยังไม่มี แต่แต่หิว หิว กะหิวเท่านั้น คือยาเพรดตัวนี้ ไม่รู้มันช่วยอะไร นอกจากหิวกะอ้วน ใครเจออย่าทักนะ เครียด 555 ไม่รู้จะเอาลงได้รึเปล่า งดอาหารเย็น ลงไป 2ขีด ชิมอาหารขึ้นไป 1โล เดินผ่านขึ้นไป 5 ขีด คือทำยังไงก็อ้วน รอให้ออกกำลังกายได้ก่อนเถอะ เราจะไม่ทน ขอบคุณเจ้าของไต ขอบคุณกำลังใจ ขอบคุณทุกสิ่งที่ทำให้มีวันนี้

ผลตรวจ 5 เดือน 8 ตค 62

ในเดือนที่ 6 เดือน ตุลา 62 ค่าไตขยับนิดนึง 1.04 หมอบอกเพราะว่า"อ้วนนนนนน" พูดเบาๆก็เช็บพวดดดด ไปลดฟามอ้วนเลย จ้ะ พอดีแผลหายแล้ว พรุ่งนี้เริ่มเลย วิ่งๆๆ ก็ไปสมัครวิ่ง Virtual Run 10กม. มา ก็สะสมไปวันละ 2 กม. เค้าให้เวลาสะสมค่อนข้างนานเกือบ 20 วัน ก็สะสมไปเกือบ 40 กม. ก็ได้เสื้อ ได้เหรียญมาเป็นรางวัล แต่ที่เศร้าก็คือ อดไปดูคอนฯ อุแง๊งงง หมอบอกให้ครบปีก่อน เร็วเกินไป ตั๋วมีทเป๊ก ผลิตโชคในมือ ต้องขายต่อ อุตส่าห์ชิงโชคได้มา ไม่เคยมีแต้มบุลลลมาก่อน เป็นอันต้องพับ คอนปีนี้ทั้งหมด เอาวะสุขภาพต้องมาก่อน เชื่อหมอ ขายๆๆ

หลังจากวิ่งมาได้ 3 เดือน เท้าและข้อเท้าของเราก็เริ่มแย่ คือเจ็บปวดหลังจากวิ่งทุกครั้ง ก็คิดว่าไม่รู้เกิดจากท่าวิ่ง หรือรองเท้า เนื่องจากขาคดข้างนึง เวลาวิ่งจะแบๆไปด้านข้าง ทำให้เป็นรองช้ำ และรองเท้าก็คับแน่นมาก เท้าอ้วนขึ้น รองเท้าคับ และหัวรองเท้าก็บีบมาก ตอนซื้อไม่ได้ดูเรื่องรองเท้าหัวกว้าง เพราะเป็นคนเท้ากว้าง จึงหยุดวิ่ง และลองมาปั่นจักรยานดูก่อน เริ่มจากปั่นจักรยานอยู่กับที่ 30 นาที ก็ใช้ได้ ลองปั่นไปก่อน พอครบประมาณ 10 วันก็ คิดว่าไหวน่า ก็เอาล่ะ ปั่นจักรยานจริงดีกว่า เริ่มเบาๆ วนรอบบ้าน ใช้แอปจับระยะทางก่อน วันแรกๆเบาๆก่อน 2 กิโลเมตร จนเพิ่มเรื่อยๆถึง 5-6กิโลเมตร ต่อวัน

เดือนที่ 7 เดือน พย.62 มีเหตุการณ์ลมหนาวพัดผ่าน หลังจากไปปั่นจักรยานมาเหงื่อท่วมตัว ก็รู้สึกหนาวมาก ตอนปั่นก็หนาวมาก เพราะว่าลมหนาวพัดดีจริงๆ ก็เลยไปอาบน้ำ เพราะเหงื่อเปียกมากจนหนาว ตอนอาบน้ำก็สั่นจนเห็นได้ชัด รีบล้างหน้าแปรงฟัน อาบเร็วๆ แล้วเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวเป็นชุดนอนเลย หาผ้านวมมาห่ม ก็เกิดหนาวจนสั่น ยังไงซิ จัดพาราฯ500 mg ไปเม็ดนึง คว้าปรอทมาเหน็บจั๊กแร้ เอาออกมา ว๊าย ตาเถร ปาเข้าไป 38.9 องศาเซลเซียส เอาไงดีวะ โทรไปถามทางหน่วยเปลี่ยนไต บอกให้ไปพบหมอตรวจโรงพยาบาลแถวบ้านได้เลย ตอนนั้น 2 ทุ่มแล้ว เนื่องจากรอสามีกลับจากทำงาน ระหว่างรอก็ทำการใจกล้าโทรหาหมอที่รักษาเรา อาจารยืเคยให้เบอรืไว้ ปกติไม่กล้าโทร ไม่จำเป็นจะไม่โทรรบกวนเด็ดขาด แต่ตอนนี้ประสาทรับทาน ก็ขอโทรนะคะ อาจารย์บอกว่า กินพาราฯทุก 6 ชม. แล้วนอนพัก น่าจะอากาศเปลี่ยน กินยากดภูมิ ปรับตัวไม่ทัน อาจารย์ช่างคาดการณ์ได้น่ารักมาก 555 สามีก็เอาไงดีวะ ไปหาหมอก้ดี เผื่อเจาะเลือด ให้ยา ก็เลยให้พาไปรพ.เอกชนแถวบ้าน ตอนเกือบๆ 3 ทุ่ม ปรากฎว่าหมอที่รพ.เอกชนแห่งหนึ่งที่ไปหา จะสั่งแอดมิดด่วน เราก็เลยบอก เดี๋ยวๆๆ อะไรยังไง หมอบอกว่าตอบไม่ได้ ต้องแอดมิน ตรวจเลือด เอ็กซเรย์ รอดูอาการ ถึงจะให้ยา เราบอกนี่เปลี่ยนไตนะ ลองเจาะเลือดก่อนมั้ย ไม่อยากแอดมิด ถ้ามีไข้ติดเชื้ออะไรจะได้พิจารณาอีกที หมอก็ไม่เอา เราก็เลยอึ้งๆว่าจะยังไง ไม่เจาะเลือด ไม่จ่ายยา หมอบอกห่วงเรื่องเงินเหรอ จะให้ทำรีเฟอร์ไปรพ.รัฐมั้ย เราก็ประมาณว่า ถ้ารีเฟอร์ขอไปเองดีกว่า เค้าบอกไปเองก็ได้ หมอก็ห่วงค่าใช้จ่าย กลัวติดเชื้อ ให้ยาผู้ป่วยเปลี่ยนไตก็ลำบาก เราก็ขอไปศิริราชเอง กลับบ้านมาเตรียมข้าวของเผื่อแอดมิด เรียบร้อยแล้วก็เดินทางจากสุพรรณ ประมาณ 4 ทุ่มกว่าๆเข้ากทมฯ ถึงก็เกือบๆ ตี 1
ไปถึงก็นอนรถเปลเลยจ้า แบบว่าไหวถ้าจะนั่ง มึนไปหมด ไปถึงแจ้งอาการไปแพทย์เวร พยาบาลมาวัดไข้ 36.5 อ่าว ไม่มีไข้อีก ถามไปถามมา อ่อ กินพาราฯไปตอน 2 ทุ่ม ไข้ลดเฉย ก็ทำการซักถาม ไปไหน ทำอะไร ตอนนั้นยังไม่มีโควิค ไม่งั้นโดนกักตัวแน่ 555 หมอก็ทำการเจาะเลือด เพื่อตรวจ แต่ระบบคอมล่มไปหลายนาที กว่าจะได้เริ่มเอาเลือดไปตรวจก็รอไปก่อน จนระบบดี ก็ได้จ่ายเงินตรวจเลือด แล้วก็นอนรอผลเลือดไป ผลตรวจเลือดออกมาหมอบอก ไม่มีอะไร แต่ให้ยากันไว้ก่อน หมอบอกกันไว้ก่อน เราถามกันอะไร แหะๆ หมอก็ไม่ตอบ สรุปว่าได้ยาพาราฯมา 3 แผง กับยาฆ่าเชื้อมา 7 วัน กินพาราฯ ก็กลับบ้านถึงบ้านเกือบตี 5 นอนต่อ นอนทั้งวันทั้งคืน ลุกกินข้าวกินยา แล้วนอน นอนมา 3วัน ไข้ก็ลด ไข้หายไป แต่ยาฆ่าเชื้อ มันแย่มาก ที่ต้องกินต่อให้ครบ 7 วัน มันพาลกินข้าวไม่ได้เบื่ออาหาร เวียนหัว มึนไปหมด กว่าจะ7วัน แทบแย่ ผอมเลย พอครบ 7 วัน ก็กลับมากินเป็นพายุเหมือนเดิม 555 สรุปว่าไข้หวัดธรรมดา 3 วันกินพาราฯหาย แต่กินยาฆ่าเชื้อกันไว้ก่อน เดือนนี้จัดยาไป 7 วัน

ผลตรวจ 8 เดือน (3ธค62)

เดือนที่ 8 เดือน 5 ธันวาคม 62 เดือนนี้ก็มีเรื่องให้ตื่นเต้นอีก เกิดเหตุการณ์ขรี้แตก แบบว่า พยาบาลบอกห้ามท้องเสียเป็นอันขาด เดี๋ยวติดเชื้อ ก็ถ่ายปรู๊ดปร๊าด ออกมา ประมาณ 5 ครั้ง ไม่หยุด ก็ว่าต้องใช่ หมอบอก ถ่ายเหลว 3 ครั้ง ให้สงสัยไว้ก่อน ก็เลยโทรถามพยาบาลห้องเปลี่ยนไตว่าท้องเสียทำยังไงคะ พยาบาลบอกว่า ให้ไปหาหมอโรงพยาบาลใกล้บ้าน เหมือนเดิมล่ะ ก็ไปหา ได้ยาฆ่าเชื้อ(อีกแล้ว) ได้มา 5 วัน 1 แผง ต้องกินให้หมด พอได้ยามาแล้ว คือยา Norfloxacin (นอร์ฟลอกซาซิน) กินไป 1 เม็ดตอนเย็น คืนนั้นทั้งคืนก็ไม่ถ่าย เช้าก็ไม่มีถ่าย อ่ะกินไปอีกเม็ด ทั้งวันก็ไม่มีถ่ายอะไร มานึกได้ เอ๊ รึเราแพ้น้ำส้มสายชู เพราะเป็นแบบนี้หลายครั้งแล้ว จะหยุดยาก็ไม่ดี เดี๋ยวดื้อยา ก็กินต่อไปจนครบ 5 วัน แต่ยานอร์ฟอกฯ ไม่แพ้แหะ เฉยๆ ไม่มีอาการเบื่ออาหาร ทานข้าวไม่ลงอีก ก็กินต่อไป อร่อยกับการกินอีกจ้า เดือนนี้จัดยาไป 5 วัน

เดือนที่ 9 เดือน มกราคม 63 เดือนนี้ขอให้ปลอดโปร่งบ้างเถอะนะ ตื่นเต้นมา 2 เดือนแล้ว แต่ๆๆ มันไม่ปล่อยให้ว่างเลย คือ แพ้ฝุ่น PM2.5 ก็คือไปปั่นจักรยานอีกแหล่ะ กลับมาตาปูดน้ำมูกไหล เป็นอะไหว่า ก็น้ำมูกไหลมา 3 วันแระ พอมันไหลมากๆ ก็ลงคอ ไออีก ไอจากน้ำมูกนั่นแหล่ะ กินยาแก้แพ้ลดน้ำมูก ล้างจมูก จิบน้ำอุ่นไป เกือบ 7 วันเอ๊ะ ก็ไม่หาย เอาไงดี คิดว่าตัวเองเป็นไซนัสด้วย เพราะอาการคล้ายๆที่เคย เป็นมาก่อน คราวนี้ก็เลยไม่โทรหาพยาบาลห้องเปลี่ยนไตแล้ว เพราะส่วนใหญ่คำตอบคือ ให้หาหมอใกล้บ้าน ก็เลยไปหาหมอหูคอจมูก ก็ตรวจจมูก หมอบอกว่าไม่ได้เป็นไซนัส อาจจะแพ้ฝุ่นแพ้อากาศ ให้ยาพ่นจมูก และก็ยาลดน้ำมูกมากิน 5 วัน กินยาแล้วก็หาย เรียบร้อย เดือนนี้จัดยาไป 5 วัน

เปลี่ยนไตเดือนที่ 10 เดือน กุมภาพันธ์ 63 เดือนนี้แข็งแรงดี ปั่นจักยานดี กินอร่อย น้ำหนักพุ่งทะยานขึ้นเรื่อยเอาไม่อยู่ ก็มาจากอายุมาก แล้วก็กินยาเพรด ยาตัวนี้จะทำให้อยากอาหารและก็จะพอกไขมันง่าย คือเป็นเบาหวานง่าย เป็นไขมันง่าย และไม่เบิร์น คือออกกำลังกายเท่าไรก็ไม่ลด คุมอาหารแป้งน้ำตาลก็ไม่ลด กิน 2 มื้อ งดมื้อเย็นก็ไม่ลด ทำใจละ ก็แข็งแรง อารมณ์ดี แต่เหมือนเศษเวรเศษกรรมยังไม่หมดซะที ทำบุญนั่งสมาธิสวดมนต์ทุกวันนะ แต่ก็ยังมา มีอาการอีกแล้ว อาการคือ ถ่ายกระปริบกระปรอย ทีละนิดละหน่อย 4หน 5หน แต่ละหนก็ปวดท้องแบบ ห้องน้ำโอ้ยยย จะถ่ายแล้ววว บิดไส้มาก เจ็บไส้ไปหมด เหมือนจะขยับจะอึตลอดเวลา แต่ไม่ได้ถ่ายเหลวนะ ท้องผูก ท้องเสีย ท้องผูกสลับกับท้องเสีย อุจจาระแข็งหรือนิ่มกว่าปกติ อุจจาระไม่สุด ปวดท้อง ท้องอืด ก็เอาละวะเกิดอะไรขึ้น เป็นมา 2 วันแระ ลองค้นกูเกิลดูหน่อย ใส่อาการๆๆลงไป ป๊าบ ลำไส้แปรปรวน ก็ออกไปหาหมออีกรอบ ที่รพ.เอกชน ก็เล่าๆๆอาการแบบที่บอกให้ฟัง ดูว่าหมอจะพูดอะไรบ้าง หมอบอก เธอเป็นลำไส้แปรปรวน จ้า เหมือนที่ค้นกูเกิลเลย (ไม่ได้ว่าหมอกูเกิลนะ เราค้นไว้ก่อน วิตกกังวลน่ะ) แต่หมอพูดตรงกันก็สบายใจ หมอให้ยาลดการบีบรัดของลำไส้ ยาแก้ปวดท้อง ยาระบายให้ขับถ่ายตรงเวลา ทานยาไป 2 วันก็ดีขึ้นเกือบหาย ก็ทานต่อไป 5 วัน หาย ก็หยุดยา หมอบอกหายก็หยุด เดือนนี้จัดยาไป 5 วัน(อีกแระ 555) เดือนนี้ได้จัดทำบุญบ้าน โดนรวมกับวันครบรอบวันตายของพ่อ และอุทิศบุญให้กับเจ้าของไต โดยนิมนต์พระ 9 องค์มาทำบุญที่บ้าน และสวดอุทิศบุญไปยังผู้บริจาค ทำผ้าป่า และตระเวนทำบุญอีกหลายแห่ง บุญสร้างพระ บุญโรงพยาบาล บุญคนยากจน บุญหมาแมว

จิงๆแล้วก็ทำต่อเนื่องมาทุกๆเดือนอยู่แล้ว พอได้โอกาศก็บุญใหญ่ๆหน่อย

เปลี่ยนไตเดือนที่ 11 เดือน มีนาคม 63 เฮ้อ เดือนนี้สบายตัว แข็งแรงดี แต่ๆๆๆ โคโรน่า โควิค-19 จะมาอะไรตอนนี้ มาหาหมอ 10 มีนา ฝ่าโควิค ผลเลือดค่อนข้างสวยงาม ค่าครีอะตินีนอยุ่ที่ 0.93 ก็ยังอยู่ในเกณฑ์ดี สุขภาพแข็งแรงดี แต่ต้องกักตัว ไม่ได้ออกจากบ้าน ไม่ได้ขายของ

เปลี่ยนไต ครบ 1 ปี เมษายน 63 (ครบรอบ 2พค.วันผ่า) เดือนนี้ก็เงียบๆ แข็งแรงดี ไม่มีอะไรตื่นเต้น ก็กักตัวอยู่บ้าน ทำอาหาร ออกกำลังกาย อ่านหนังสือ ดูซีรีย์ เล่นเน็ต วนไป ก็เหงาๆนะ แบบว่าไม่ได้ออกไปไหน แต่ก็ต้องปลอดภัยไว้ก่อน เพราะคนที่เปลี่ยนไต ต้องกินยากดภูมิ ทำให้อ่อนแอกว่าผู้คนปกติ จึงต้องเซฟตัวเองก่อน ทั้งประกาศทางการก็ให้อยู่แต่ในบ้าน ย้ำ เด็ก คนชรา โรคเรื้อรัง คนกินยากดภูมิ ต้องอยู่ ก็เลยอยูเงียบๆ ที่บ้านก็ไม่มีใครออกจากบ้าน เพื่อที่จะไม่นำเชื้อข้างนอกมาติดเรา และแม่ก็แก่แล้วด้วย ส่วนอาหารมีแม่บ้านรับจ้างมาซื้อส่งให้ ส่วนของใช้ใช้ระบบเดริเวอรี่ทั้งหมด ทั้งอาหารของใช้สั่งผ่านซูเปอร์มาเก็ตออนไลน์ ช้อปปิ้งออนไลน์ อยากกินอะไรก็สั่งทางเน็ต มีแต่ขนส่งวนเวียนมาบ้านทุกวัน 555 เตรียมแอลกอฮอล์ฉีดกล่องไว้ก่อนนำเข้าบ้านส่วนเงินไม่จับ ใช้จ่ายเงินก่อนเลย ไม่มีเก็บปลายทาง

เรื่องอาหารการกิน ส่วนใหญ่ไม่ได้ออกไปไหนก็ทำเอง จากคนที่ทำอาหารไม่เป็นก็เริ่มทำโดยการเปิดวิธีการทำจากยูทูป อยากกินอะไรก็เปิด จดวิธี หาซื้อวัตถุดิบ แล้วลองทำ ขนาดก๋วยเตี๋ยว หรือแกงยากๆ ก็ลองทำจนได้ ทุกวันนี้ก็สามารถทำทุกอย่างที่อยากกินได้เลย แถมควบคุมปริมาณความเค็มและคุณภาพของวัตถุดิบได้ แต่บางอย่างก็ซื้อมากิน บางทีมันลงทุนมากไป แค่อยากกินครั้งเดียว ส่วนพวกขนมอะไรเราหาซื้อเอาได้ กินนิดๆหน่อยๆพอ

สิ่งที่ควบคุมไม่ค่อยดีคือความอ้วนค่ะ พุงออกมาก อ้วนจากการกินยาเพรดนิโซโลน อ่านจากคู่มือซึ่งเป็นอาการข้างเคียงของยา ทำให้หิวมาก อยากกินไปหมด อร่อยไปหมด และมันทำให้ไขมันสูง มีโอกาสเป็นเบาหวานง่าย ก็ต้องลดของมันหวาน และยามันทำให้การเผาผลาญต่ำ ยิ่งอายุเยอะ ก็เริ่มไม่เผาผลาญแล้ว แม้จะกินน้อย ออกกำลังกายหนัก น้ำหนักก็ไม่ลง กลับขึ้นได้ขึ้นดี จากผอมดูดี ก็กลับมาอ้วนอีก จนน่ากลุ้มใจ 555 ตอนนี้ก็พยายามทานผัก งดแป้ง น้ำตาล ไขมันพอกพุง ไขมันในเลือด ออกกำลังกายมากๆ ทานแค่ 2 มื้อ แต่น้ำหนักก็ไม่ลงเหมือนเดิม

จาก 1 ปีที่ผ่านมา ก็รู้สึกเหมือนว่า เร็วนะ แป๊บเดียว บางทีก้เหมือน 10 ปีที่ผ่านมาคือฝันไป แล้วก็คิดว่า อนาคตจะเป็นอย่างไรต่อไป ก็ได้แต่ทำดีที่สุด เพื่อรักษาไตนี้ไว้ เค้าให้เราแล้ว เราก็ต้องรักษาไว้ให้ดี ให้นานที่สุด ได้มีโอกาศคุยกับคนที่รักษาไตไว้ได้ 18 ปี 20ปี 25 ปี ก็หวังว่าจะได้กะเค้าบ้าง อย่างน้อยก็ได้ใช้ชีวิตตอนแก่ แบบไม่ต้องไปนอนฟอกไตอีก

สิ่งที่เฟลในใจก็คือ กะว่าครบ 1 ปีแล้ว จะออกเที่ยวทั่วไทย เหมือนที่ผ่านๆมา อาจจะไปไกลถึงต่างประเทศ แต่ก็อดกัน เพราะสถานการณ์โควิค อาจจะทั้ง ปี 63 เลยที่ต้องหยุดคิด เพราะยังไม่รู้ใครติดแบบไม่ออกอาการบ้าง รอไปจนกว่าจะแน่ใจว่า มียา มีวัคซีน ให้มั่นใจก่อน ช่วงนี้ก็ขายของเก็บตังไปก่อนละกัน

ขอบคุณทุกคนที่เคยติดตามอ่านกันมาเป็น 10 ปี หรือเพิ่งมาอ่านนะคะ เพราะมันยาวมาก 555 ใครที่เพิ่งเป็นโรคไต หรือคนในครอบครัวเป็น ก็มาร่วมกลุ่มพุดคุยกันได้ การกิน การอยู่ การใช้ชีวิต ที่จะทำให้อยู่กับโรคนี้ได้นานๆ เฟสกลุ่มค่ะ หากใครที่เป็นโรคไตแล้วอยากเปลี่ยนไต อายุไม่เกิน 60 ปี ก็ลองดูวิธีการตามนี้นะคะ