advertisement

คนเปิดร้านกาแฟแล้วเจ๊ง ขอเตือนใจก่อนลงทุน


advertisement

       ธุรกิจร้านกาแฟเป็นอาชีพที่หลายคนไฝ่ฝัน แต่ก็มีหลายๆร้านที่ทำแล้วเจ๊งไม่เป็นท่า ซึ่งสาเหตุก็เป็นเพราะปัจจัยหลายๆอย่าง ที่ทำให้ทำแล้วธุรกิจไปไม่รอด โดยคุณ สก๊อยซ้อนรถเครื่องสีแสด สมาชิกเว็บไซต์พันทิปได้ออกมาโพสต์ถามถึงสาเหตุที่ทำให้ร้านกาแฟส่วนใหญ่เจ๊ง โดยระบุว่า 

ใครเคยเปิดร้านกาแฟ แล้วตอนนี้เจ๊งไปแล้วบ้างคะ

ถามค่ะ

1.ปิดไป เพราะสาเหตุอะไรหลักๆคะ 

2.รู้สึกอย่างไรตอนปิดไปคะ

3.ถ้ามีโอกาสจะกลับไปเปิดอีกไหม หรือจะเปิดร้านอะไรต่อไหมคะ 

ความคิดเห็นจากคุณ LollipOpGalz 

บางคนเปิดร้านขายกาแฟ แต่ไม่มีความเข้าใจกาแฟ…ไม่ได้รักกาแฟ  คิดว่าทำอะไรกับกาแฟก็ได้ ชงยังไงก็ได้

แชร์ประสบการณ์จากการดื่มกาแฟ ได้รู้จักพี่คนนึง เป็นคนที่ชงกาแฟของแบรนด์กาแฟชื่อดังที่ขายแฟรนไชน์…พี่เค้าเป็นลูกจ้าง แต่ทุกอย่างที่ร้านกาแฟควรมีคนชงแบบนี้…เราถามอะไรเกี่ยวกับกาแฟ พี่เค้าตอบได้หมด ชงกาแฟด้วยใจ ใบหน้ายิ้มแย้ม จัดการทุกอย่างแทนเจ้าของกิจการได้…เวลาที่มีเปิดสาขาใหม่ๆ เจ้าของจะส่งพี่คนนี้ไปช่วยดูแลช่วงเปิดสาขาทุกครั้ง


advertisement

วันนึง…เปลี่ยนเจ้าของ นายจ้างคนใหม่ไม่รู้บริหารอย่างไร แต่เท่าที่สัมผัสคือพี่เค้าคงอึดอัด เลยลาออกมาเปิดร้านกาแฟเอง ขายราคา 35-45 บาท แต่รสชาติคือดีงาม…ลูกค้าประจำที่ติดพี่เค้า ก็ตามมากินที่ร้านกาแฟใหม่ที่พี่เค้าเปิด…มีบริการส่งถึงที่ทำงาน (แก้วเดียวก็ส่ง)…พี่เค้าจำได้ว่าลูกค้าประจำแต่ละคนกินอะไร ชอบแบบไหน…มีครั้งนึงเราโทรมาสั่ง ปรากฎว่าพี่เค้าทำผิด คือเราชอบกาแฟที่หวานน้อย แต่พี่เค้าทำหวานปกติ….พี่เค้าเลยชงแก้วใหม่ให้ โดยที่เราบอกว่าไม่เป็นไร คือเรากินได้ เราเกรงใจ

แต่คำตอบพี่เค้าคือ "ไม่ได้ค่ะ…ลูกค้าเอาเงินมาให้ ลูกค้าจ่ายเงินซื้อ พี่ก็ต้องชงให้ดีที่สุด"

ทุกวันนี้กาแฟสดร้านพี่เค้า เป็นร้านเล็กๆ ในอำเภอ ที่คนแทบจะต่อคิวซื้อกาแฟเลยก็ว่าได้ค่ะ

ความคิดเห็นจากคุณ เจ้าเจ้ยเจื้อยแจ้ว  

ไปเจอกระทู้น่าสนใจจากพันทิปเกี่ยวกับธุรกิจร้านกาแฟว่าทำไมเปิดแล้วอยู่ได้ไม่นาน ต้องม้วนเสื่อพับกิจการกันเป็นแถว

มีสมาชิกมาแลกเปลี่ยนความเห็นคับคั่ง น่าสนใจคือคอมเมนต์ในความเห็น 18 โดยคุณสมาชิกหมายเลข 791338 ที่วิเคราะห์สาเหตุของร้านกาแฟไปไม่รอดว่าน่าจะมาจากปัจจัยต่อไปนี้

1.คิดไม่ออกเปิดร้านกาแฟ เรียนสูตรจากร้านขายเครื่องชง =เจ๊ง

2.ไม่รู้จักกลุ่มเป้าหมายของตัวเอง =เจ๊ง

3.ทำเลไม่ดี=เจ๊ง

4.ไม่มีที่จอดรถ ถ้าทำไม่ดีจริง =เจ๊ง

5.พนักงานไม่ใส่ใจลูกค้า บริการไม่ดี พูดไม่เพราะ ร้านกาแฟข้างทางหรือเปิดเป็น Shop ไม่ใช่แบรนด์ดัง =เจ๊ง 

6.รสชาติห่วยแตก กินครั้งเดียวโยนทิ้ง =เจ๊ง

7.ร้านไม่สวย ไม่น่านั่ง ไม่น่าเข้า แถมบริการแย่ =เจ๊ง

8.เจ้าของร้านกู้เงินมาลงทุน ขายไม่ดี ทุนไม่ถึง แบกรับขาดทุนระยะยาวๆไม่ได้ =เจ๊ง

9.เจ้าของร้าน ไม่สนใจพนักงาน ไม่สนใจร้าน ปล่อยพนักงานทำกันเอง โดนโกงบ้าง ขโมยบ้าง =เจ๊ง

10.เจ้าของร้าน ใจออก ทำไปก็เสียเวลา =เจ๊ง 

11.พนักงานเงินเดือนไม่สมน้ำสมเนื้อ =เจ๊ง เช่นกรณีร้านขายดี แต่เจ้าของกดเงินเดือน ไม่มีค่าคอมให้พนักงาน เสี่ยงที่เด็กจะลาออก 

12.พนักงานไม่รักในร้าน =เจ๊ง ถ้าขนาดพนักงานยังไม่รักร้าน ไม่รักเรา แล้วเราจะหวังให้ลูกค้ารักเรา ซื้อสินค้ากับเราได้ยังไง ทุกสิ่งทุกอย่างเริ่มต้นด้วยพนักงานทั้งนั้น!
15 42   

ความคิดเห็นจากคุณ Made In Heaven  

ที่แย่ที่สุดคือบางคนยังไม่รู้ตัวว่าร้านเจ๊งเพราะอะไร ปิดร้านไปแบบงงๆ

ลูกค้าอย่างผม อยากจะเข้าไปบอกจริงๆ ว่า

– คนชงไม่ซ้ำหน้า (รสชาติมันจะมาตรฐานได้ไง)

– พนง หน้าเหม็นเยี่ยว (เจอแบบนี้ทีเดียวก็เกินพอ)

– เจ้าของไม่ชงเอง ไม่อยู่ร้าน (คิดว่า พนง จะดูแลร้านเอาใจใส่ดีกว่ารึไง)

– ตั้งราคาไม่ดูทำเล (กะเปิดปีเดียวถอนทุนได้ + กำไรเหนาะๆ)

– ใช้ของคุณภาพไม่ดี (โกโก้แก้วละ 60-70 แต่ใช้วัตถุดิบเหมือนร้านรถเข็น)

..แต่คงบอกไม่ทันแระ เจ้าของคงเปลี่ยนไปขายอย่างอื่นแล้ว  

ามคิดเห็นจากคุณ วิวดีไม่มีตึกบัง   

ผมเปิดมา เจ็ดปีแล้ว ก็ยังอยู่ได้เรื่อยๆ เพราะอาศัยเปิดในร้านอาหาร กาแฟมันแค่ส่วนเสริม ขายได้ก็ดี ไม่ได้ก็ช่าง มันเลยอยู่รอด

แถวร้านผมมันต่างจังหวัด ห่างตัวเมือง คนจะมาจิบกาแฟชิลๆไม่มี

ถ้าเปิดร้ากาแฟ จริงจัง คงม้วนเสื่อไปแล้ว 

เห็นที่ปิดๆกันไป ก็คือ เบื่อ ลูกค้าน้อย ไปทำอย่างอื่นแทน ส่วนมากก็คนมีกะตังส์ เปิดเล่นๆหัวๆไป

ความคิดเห็นจากคุณ สมาชิกหมายเลข 5112225  

มีแต่สตาร์บัคกับอาเมซอนที่ไปรอด เพราะ สตาร์บัคเน้นขายชาวต่างชาติในเมืองไทย ลองคิดดู เฉพาะนักท่องเที่ยวอย่างเดียวก็จะ ไป40ล้านต่อปีแล้ว หากชาวต่างชาติที่มีรสนิยม ด้านกาแฟ จะสั่งแบบร้อนหรือเอสเปรสโซช็อต ความคาดหวังของเค้าคือจะต้องให้สัมผัสที่ดีทั้ง ในเรื่องกลิ่น และความรู้สึกที่ติดอยู่ปลายลิ้น หลังจากกลืนลงคอไปแล้ว ยิ่งบางคนติดกาแฟ เกรดสูง ก็จะชอบแบบขมน้อยและติดเปรี้ยว นิดๆ ซึ่งสตาร์บัคจะมีความหลากหลายทั้งใน แบบที่ชงขายและแบบที่ขายเมล็ดก่อนบด

ส่วนคนไทยที่นิยมทายแบบเย็น ก็หวังในความ กลมกลืนและลงตัวร่วมกันระหว่างความเข้มและความหวานมัน รสขมที่ติดทนนานซึ่งรู้สึก ได้ในสัมผัสแรกจวบจบสัมผัสสุดท้าย จะเป็น ตัวตัดสิน ว่าใครจะได้ไปต่อ ซึ่งสาขาส่วนใหญ่ของอาเมซอน มักตอบโจทย์เสมอ และบางทีก็ ซื้อเพราะมันดีที่สุดในปั๊มน้ำมันที่เราแวะ

…ปล.ผมแค่ทานกาแฟวันละแก้วนะ.. 

     สำหรับเรื่องการทำร้านกาแฟ นอกจากใจรักและรสชาติต้องดีแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญมากก็คือการบริการที่ดี ซึ่งเป็นสิ่งที่สามารถดึงดูดลูกค้าได้เช่นกัน ฉะนั้นก่อนจะเปิดร้านการแฟก็ต้องศึกษา และวางแผนให้ดีเพื่อธุรกิจจะได้ไปรอดนะคะ 


advertisement