advertisement

ทำไม ‘เพื่อไทย’ ชนะการเลือกตั้ง แต่มีโอกาสน้อยที่จะได้เป็นนายก!?


advertisement

     หลังจากผ่านวันเลือกตั้ง 24 มีนาคม 2562 และนับผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการออกมาแล้ว พรรคที่มีคะแนนนำก็คือ พรรคเพื่อไทย แต่ยังมีโอกาสน้อยมากที่จะได้นั่งเก้าอี้นายก ซึ่งผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อ Chaiyapon Chai Chawanwanitchai ได้ออกมาโพสต์วิเคราะห์ถึงเรื่องผลคะแนน โดยระบุว่า 

ทำไมพรรคเพื่อไทยเลือกตั้งชนะ 

แต่มีโอกาสน้อยมากที่จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีและจัดตั้งรัฐบาล

1

ด้วยกติกาในรัฐธรรมนูญใหม่ฉบับนี้

เลยต้องแยกคุยกัน 2 เรื่อง 

(ซึ่งผมพอเขียนไปบ้างแล้วอย่างละเอียดในโพสต์ก่อนหน้า) 

เรื่องแรกคือการจัดตั้งรัฐบาล

เรื่องที่สองคือการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี


advertisement

2

อธิบาย (อีกครั้ง) เรื่องการโหวตเรื่องนายกก่อน

สำหรับรัฐธรรมนูญฉบับนี้ 

กำหนดให้ทั้งสส. และ สว.

โหวตเลือกนายกฯร่วมกัน 

โดยสส.มาจากการเลือกตั้งครั้งนี้ 500 คน 

สว. มาจากการสรรหาของคสช 250 คน 

รวมกัน 750 คน คนที่จะได้เป็นนายกฯ ต้องได้เสียงเกินครึ่ง คือ 376 เสียง

3

ถ้าลุงตู่จะเป็นนายกฯ 

มีเสียงสว.ตุนอยู่แล้ว 250 เสียง

จึงจำเป็นต้องหาเพิ่มแค่ 126 เสียง 

ซึ่งตอนนี้มีแล้ว 117 เสียง

ซึ่งการเป็นนายกฯไม่ใช่เรื่องยากเย็น

โอกาสไปเกิน 95%แล้ว

4

แต่เหนือจากการได้เก้าอี้นายกฯ 

คือการจัดตั้งรัฐบาล

ซึ่งต้องมีสส.ฝ่ายรัฐบาลเกินครึ่งหนึ่งของสส. ทั้งหมด 

(ไม่เกี่ยวกับสว.แล้ว) นั่นคือทั้งหมด 500 คน

ครึ่งหนึ่งคือ 251 คน

5

เพราะนายกฯ และคณะรัฐมนตรี

จะต้องออกกฎหมาย จะต้องออกงบประมาณทั้งหมดผ่านสภาสส.

ถ้าโหวตแต่ละทีไม่เกินครึ่ง 

แปลว่าเป็นนายกที่มีแค่ตำแหน่ง

ทำงานไม่ได้ เสนออะไรก็ไม่ผ่าน

คือทำงานอะไรไม่ได้เลย

6

ที่ร้ายแรงกว่าคือถ้าโดนอภิปรายไม่ไว้วางใจปุ๊บ

เกินครึ่งคือ 251 โหวตไม่ไว้วางใจปุ๊บ

หลุดตำแหน่งนายกทันที

ดังนั้นต่อให้มีสว.ทั้งหมดในมือ ได้เป็นนายกแน่ๆ

แต่ไม่ได้เกี่ยวอะไรโดยตรงเลย

กับการรวมเสียงสส.ส่วนใหญ่ จัดตั้งรัฐบาลที่ต้องการเกิน 251 เสียง (ยิ่งเกินเท่าไหร่ยิ่งสบายใจ)

8

แต่ปัญหาคือ พรรคที่ประกาศเข้าข้างลุงตู่

มีน้อยเหลือเกิน จริงๆเหมือนมีพรรคเดียวด้วยซ้ำ

คือพรรครวมพลังประชาชาติไทย ของลุงกำนัน

ซึ่งแพ้สส.เขตรูดแบบหลุดลุ่ย ได้ทั้งหมดแค่ 5 เสียง

ซึ่งตอนนี้พรรคลุงตู่มี 117 เสียง

รวมกับพรรคลุงกำนัน 5 เสียง รวมเป็น 122 เสียง

ยังขาดอีกอย่างน้อย 129 เสียงถึงจะเกินครึ่ง

9

พรรคที่ประกาศเป็นกลาง

พร้อมเข้าร่วมกับพรรคที่ได้เป็นรัฐบาล

คือพรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย ชาติไทยพัฒนา

ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์มี 54 เสียง

ภูมิใจไทย 51 เสียง

ชาติไทยพัฒนา 10 เสียง

ถ้าทั้ง 3 พรรคนี้โอหมด จะได้บวกเพิ่ม 115 เสียง

รวมเป็น 237 เสียง 

ซึ่งยังไม่พออยู่ดี 

10

และใช่ว่า 3 พรรคนี้จะเข้าร่วมแน่นอนซะเมื่อไหร่

ต้องเจรจาต่อรองกันหนักหน่วงแน่นอน

เห็นไหมครับว่าลุงตู่จะจัดตั้งรัฐบาลไม่ง่ายเลย

11

แต่ลุงตู่ว่าไม่ง่ายแล้ว 

ทางฝั่งเพื่อไทยกลับยากกว่ามาก

แม้เป็นผู้ชนะอันดับหนึ่ง

12

ตอนนี้พรรคเพื่อไทย รวมกับพรรคที่ไม่เอาลุงตู่

เพื่อไทย 135 

อนาคตใหม่ 86

เสรีรวมไทย 11

เศรษฐกิจใหม่ 6

ประชาชาติ 6

เพื่อชาติ 5

รวม 249 เสียงแค่นั้น

ก็ยังไม่พอที่จะตั้งรัฐบาล

13

แต่ที่ยากกว่ารัฐบาล คือโหวตเลือกนายก

ที่ต้องเอาชนะ สว.250 คน 

คือต้องรวมเสียงให้ได้เกิน 376 เสียง (ใครงงย้อนกลับไปอ่านข้อหนึ่ง)

ซึ่งตอนนี้ฝั่งไม่เอาลุงตู่ขาดอีก 127 เสียง

14

ซึ่งต่อให้ทั้ง 3 พรรคที่เป็นกลาง

คือประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย และชาติไทยพัฒนาเข้าร่วมทั้งหมด ก็จะได้มาอีก 115 เสียง ก็ยังไม่พออยู่ดี

15 

สิ่งดีที่สุดเท่าที่ฝั่งไม่เอาลุงตู่จะทำได้

คือรวมเสียงสส.ให้มากที่สุด 

แล้วใช้สังคมไปกดดันสว.ให้เสียงแตกแทน

16

พรรคเพื่อไทยในฐานะพรรคได้คะแนนเสียงอันดับหนึ่ง

มีธรรมเนียมและมารยาททางการเมือง

ที่จะได้ลองเจรจารวมเสียงเพื่อจัดตั้งรัฐบาลก่อน

17

แต่คุณอุตตม หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ

อ้างว่าเขานับกันที่เสียงประชาชน

ไม่ใช่เสียงสส. ซึ่งพลังประชารัฐได้เสียงประชาชนสูงสุด

เลยมีสิทธิติดต่อเจรจาก่อนเช่นกัน

18 

เลยกลายเป็นว่า 

ไม่รู้ใครเสียมารยาททางการเมือง

ทั้งสองพรรค คือเพื่อไทยและพลังประชารัฐ

ตอนนี้เริ่มยกหูโทรศัพท์แล้ว

19

แต่คนที่แสดงสปิริต และแสดงความเป็นสุภาพบุรุษทางการเมืองคือคุณธนาธร พรรคอนาคตใหม่

บอกเคารพพรรคที่ได้คะแนนเสียงอันดับหนึ่ง

และพรรคนั้นควรได้เสนอชื่อนายกฯ

พรรคอนาคตใหม่ จะไม่เสนอชื่อตัวเองเป็นนายกฯ

20 

จริงๆการที่อนาคตใหม่มีเสียงเป็นอันดับสาม

ด้วย สส.ถึง 86 ที่นั่ง

มีอำนาจต่อรองตำแหน่งนายกฯได้สบายๆ

แต่กลับไม่ใช่จังหวะนี้ในการฉวยจังหวะ

21

คนที่ถูกจับตาเลยกลายเป็นพรรคภูมิใจไทย

ที่มีเสียงเข้ามาเป็นอันดับ 5 ที่ 51 ที่นั่ง

มีเสียงเม้าท์มอยว่า มีโอกาสเจรจาต่อรองถึงนายกเลย

ส่วนประชาธิปัตย์แม้มี 54 ที่นั่ง 

แต่ตอนนี้ไร้หัวหน้าพรรค 

เลยไม่มีแคนดิเดตนายกไปเลย ณ ขณะนี้

22 

วันนี้แถลงการณ์ของคุณหญิงหน่อย

ตอบคลุมเครือเรื่องนายกต้องมาจากเพื่อไทยไหม

นั่นแปลว่าอะไรก็เป็นไปได้ทั้งนั้น

23

แต่เรื่องจริงคือ ลุงตู่มีสว.ในมือ มีโอกาสเป็นนายกแน่ๆ

เมื่อเป็นนายกแน่ๆ เลยมีสิทธิตั้งรัฐมนตรีแน่ๆ

อำนาจต่อรองเลยสูงกว่ามาก

24

รวมทั้งพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ถูกกับเพื่อไทยมานาน

ยังไงท้ายที่สุดแล้ว เข้ากับลุงตู่แน่นอน

ทำให้สูตรสส. ของลุงตู่คือ

พรรคลุงตู่ 117

พรรคประชาธิปัตย์ 54

พรรคลุงกำนัน 5

รวมเป็น 176 แล้ว

25

ถ้าสูตรนี้เป็นไปได้ นั่นแปลว่าเหลือสส.ในสภา

500 – 176 = 324 คน

ต่อให้คุญหญิงหน่อยรวมได้ทั้งหมด (ซึ่งยากมาก)

ก็ไม่พอที่จะโหวตนายก ตอนมีสว.มาร่วมโหวตด้วย

ที่ต้องการ 376 เสียงได้

26

ดังนั้นยากเหลือเกินที่ฝั่งไม่เอาลุงตู่จะได้เป็นรัฐบาล

ถามว่าเป็นไปได้ไหม 

คำตอบคือได้ แต่ต้องมีปาฏิหาริย์เท่านั้น

ที่คุณชัชชาติ คุณธนาธร พลเอกเสรีพิสุทธิ์ ลุงมิ่ง

จะได้เป็นรัฐบาล เพราะหนทางริบหรี่เหลือเกิน

27

ปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นได้คือ

ฝั่งไม่เอาลุงตู่ รวมเสียงภูมิใจไทยและชาติไทยพัฒนาได้ รวมถึงพรรคเล็กพรรคน้อยอื่นๆ ได้ 300 เสียงขึ้นไป

ถ้าเป็นการเลือกตั้งครั้งอื่นๆ 

ถือว่าชอบธรรมที่สุดแห่งการเป็นรัฐบาลแล้ว

ซึ่งจะอาศัยความชอบธรรมนี้กดดันสว.ต่อไป

และหวังปาฏิหาริย์ว่าจะกดดันได้

28

จริงๆทุกอย่างจะง่ายและsimpleกว่านี้

ถ้าไม่มีสว.มาเกี่ยวในการโหวตนายก 

เหมือนทุกๆครั้งของการเลือกตั้งที่เคยเป็นมา

29

แต่ถ้าไม่มีส่วนสว.

ฝั่งลุงตู่ก็แทบจะหมดลุ้นไปแล้วเช่นกัน

อย่างไรก็ตามตัวเลขในภาพนี้

เป็นตัวเลขไม่เป็นทางการ และนับไปแล้ว 94% 

อาจมีขยับนิดหน่อยภายหลังได้

แต่คงไม่มากขนาดเปลี่ยนแปลงอะไรได้

30

สุดท้ายแล้ว ถ้าเกิดรัฐบาลขึ้นจริง

โอกาสที่เป็นไปได้มากที่สุด

ก็เป็นฝั่งลุงตู่เนี่ยแหละที่จะได้เป็น

ผมว่าฝั่งเพื่อไทยก็รู้ดี แต่ต้องการเล่นเกมจิตวิทยา

ตัดกำลังสส.ฝั่งรัฐบาลให้เหลือน้อยที่สุด

เพื่อสุดท้ายไปเล่นงานในสภา

ตอนยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจแทน

อย่างไรก็ตาม สำหรับการเมืองที่ไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร และในรอบ 20 ปี ตั้งแต่ยุคคุณทักษิณเป็นต้นมา

ไม่เคยมีครั้งไหนที่คะแนนขี่คอกันขนาดนี้

การจัดตั้งรัฐบาลในครั้งนี้

จึงเป็นการวัดสกิลการล๊อบบี้

วัดการเจรจาต่อรองผลประโยชน์

วัดไหวพริบทางการเมือง

ชิงเล่ห์ชิงเหลี่ยม หักเหลี่ยมเฉือนคม

ที่มันส์และเดือดที่สุดครั้งหนึ่งของประวัติศาสตร์การเมืองไทย!

#ครูชัย 

      เรียกได้ว่าเป้นเกมการเมืองที่มันส์มากๆ ยังไงก็รอติดตามดูกันต่อไปแล้วกันนะคะว่า พรรคไทย ฝ่ายใดจะชนะในเกมนี้ ตั้งตารออีกไม่นานคงจะทราบผลกันแน่นอน

ขอขอบคุณที่มาจาก : Chaiyapon Chai Chawanwanitchai 


advertisement