advertisement

ไอเทมเด็ดกู้ซากผิวเสียของคุณแม่ มีลูกแล้วก็ห้ามหยุดสวย


advertisement

      เชื่อว่าผู้หญิงบางส่วน หลังจากที่แต่งงานมีสามี มีลูก ก็เริ่มจะปล่อยเนื้อปล่อยตัว เพราะภาระที่มากยิ่งขึ้น เวลาที่จะมาห่วงเรื่องความสวยก็น้อยลง แต่ความเป็นจริงแล้ว ผู้หญิงไม่ว่าจะวัยไหน ก็ต้องสวยไว้เพื่อพิชิตใจสามีอยู่เสมอ 

       สมาชิกพันทิปชื่อ สถานะเศษใจ เป็นอีกหนึ่งสาวที่เมื่อมีลูก เธอก็ปล่อยให้ผิวเสีย ผิวโทรม หน้ามีฝ้าอย่างหนัก ซึ่งล่าสุด เธอก็ได้มารีวิว ปฏิบัติการปฏิวัติผิวเสีย ให้กลับมาเป็นผิวสวย ด้วยผลิตภัณฑ์ต่างๆ และก็สามารถกู้ผิวสวยกลับมาได้สำเร็จ

        ขอออกตัว… กระทู้นี้อิชั้นขอพลีชีพค่ะ

        “ผู้หญิงพอมีลูกก็เปลี่ยนไป” แหม…ประโยคนี้เชื่อว่าคนมีลูกต้องรู้สึกแบบนี้บ้างไม่มากก็น้อยแหละค่ะ เพราะการมีลูกสร้างความเปลี่ยนแปลงให้ชีวิตเรามากจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นความคิด การใช้ชีวิตในอนาคตก็ต้องมีลูกเข้ามาเกี่ยวข้องตลอด เรียกได้ว่าลูกเป็นชีวิตอีกครึ่งนึงของเราเลย

         แต่นอกเหนือจากนี้ สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปมากที่สุดแบบที่สังเกตุเห็นด้วยตาเปล่าได้เลยก็คือออออ 

        ก็คือสภาพของแม่ๆอย่างเรานี่แหละ มันคือชีวิตจริงค่ะคุณผู้อ่าน เพราะลูกคนแรกนี่แหละที่เป็นจุดเปลี่ยนจริงจังของอิชั้นเลย จากอดีตคนเกือบสวยกลายร่างเป็นอีเพิ้งสมบูรณ์แบบ 5555 หุ่นที่เคยเชฟก็เริ่มย้วยมีรอยแตก หน้าไม่แต่งครีมไม่ทา เสื้อผ้าก็หยิบใส่ส่งๆ การแต่งหน้าแต่งตัวสวยๆแบบเมื่อก่อนก็ต้องงด!!! 

        งดที่แปลว่างดจริงๆ แค่เลี้ยงลูกก็หมดเวลาชีวิตวันๆนึงแล้วค่าาา ถามว่าอิชั้นเปลี่ยนไปยังไงน่ะหรออออ หึหึ 

         


advertisement


advertisement

         ผิวพัง จุดดำเต็มหน้า ฝ้าก็ดันมาบุกอีก คิดไว้แล้วนะว่าธรรมดาของคนท้อง คลอดแล้วก็คงจะหาย แต่ไม่จ้า ฝ้าโนสนโนแคร์ พอคลอดแล้วฝ้าก็ยังติดทนเหมือนตอนท้องเด๊ะๆเลย พูดง่ายๆว่าโทรม ก็คือโทรม ไม่มีคำอธิบายอื่นใดอีกแล้ว

        เชื่อว่าคนเป็นแม่ทุกคนต้องเคยผ่านสถานการณ์นี้มาแล้ว จากความสาว พลิกมาเป็นความโทรมเพราะเลี้ยงลูก แต่!!! ฉันจะปล่อยให้เป็นแบบนี้ไม่ได้ แค่คิดก็อายรูปโปรไฟล์ Facebook มากละค่ะ! 55555

        เริ่มจากแต่งหน้าแต่งตัวก่อนเลย เสื้อผ้าก็เปลี่ยนมาใส่ที่ดูดีขึ้น ส่วนแต่งหน้าก็เน้นหนาๆปกปิดหน่อย เพราะว่าหน้าเราเป็นฝ้าแน่นเป็นกองทัพคิงแลนดิ้งเลยค่ะ

        ขอใส่สปอยอีกซักรอบ น้องยังไม่พร้อมโชว์หน้าสดจริงๆค่ะคุณพรี่ 

       เอามาเปรียบเทียบให้ดู ระหว่างลุคอยู่บ้านกับลุคออกไปนอกบ้าน เรียกว่าเปลี่ยนจากผีเป็นคน อีสามียังตกใจว่ากินอะไรผิดสำแดงมาเปล่า ทำไมจู่ๆลุกมาฮึกเหิมแต่งสวยอย่างนี้ อิอิ  อันนี้เซตแต่งหน้าสวยขอนุยาดไม่ใส่สปอยนะค้า ยอมโดนหมั่นไส้ ดีกว่าไม่ได้โชว์ความมั่นหน้าค่ะซิส 


advertisement

แต่บอกเลยว่าถึงจะไม่มั่นใจในหน้าสด แต่หน้าที่แต่งนั้น อิชั้นขอรับบทนางแซ่บค่ะ นี่แค่ออกงานกลางวันควงคู่กินข้าวเบาๆกับสามี ยังฟาดเครื่องสำอางซะอย่างกะรับงานชงเหล้าแหน่ะ555555 แต่สามีก็เลิฟนะคะว่าปาย เค้าดูจะชอบซะด้วย ที่อิแม่หันมาแซ่บรายวัน!! 

      ดูจากรูปเอาละกัน สาหลงอยู่เด้อออ ว่าบาปปป คือแค่สลัดผ้าอ้อมออกจากบ่า ลุกมาแต่งหน้านะเนี่ย คุณเขาก็กลับมาหลงหัวปักหัวปำอีกครั้ง เหยื่อติดเบ็ดง่ายเสียเหลือเกิน คงเป็นเพราะอิชั้นสวยจนทำให้เค้ารู้สึกเหมี๋ยนตอน 14 … ตอนที่สบตากันปิ๊งๆ ครั้งแรกละมั้ง เอ๋าา ว่าปายยยย ขอเม้าถึงคสอ.ที่ใช้หน่อยเผื่อมีใครอยากรู้ เป็นไอเทมขาประจำเวลาเราแต่งหน้าเลย เน้นความปกปิดแน่นๆเป็นพิเศษเพราะต้องปิดฝ้าบนหน้า “หนาไม่กลัว เทาไม่กลัว กลัวความจริงปรากฏต่อสาธารณชนซะมากกว่า” 


advertisement

      – KATE Brightening makeup Base for Cover เอาไว้ช่วยปรับสภาพผิว พรางรูขุมขนให้ดูเนียน 

      – Wet n Wild Cover All Concealer Palette เราใช้ส่วนสีส้มกับสีเขียวละเลงไปบนฝ้าหนักๆเลย 

      – รองพื้นในตำนาน Revlon Colorstay Makeup Combination ปกปิดดีมากกกกกก หน้าเนียนกริบ 

      – แป้ง MAC ค่ะ ของในตำนานเหมือนกัน อีกหนึ่งแป้งที่ปกปิดดีมากสำหรับเรา  ทั้งหมดนี่แหละที่เราประโคมใส่หน้าทุกวัน 5555

      อุปสรรคใหญ่สุดคือฝ้าบนหน้าเราที่ทำให้เรารู้สึกไม่มั่นใจอย่างแรง ทำให้เราคิดว่าไม่ได้การแล้ว ฉันจะปล่อยให้หน้าเป็นฝ้าแบบนี้ไม่ได้อีกต่อไปแล้วววววววว  กลายมาเป็นตั้งเป้าหมายจริงจังไว้ว่าจะจัดการฝ้าบนหน้าให้หายไปสักที!! ประมาณช่วงปลายปีที่แล้วเลยสรรหาวิธีสารพัดอย่างเท่าที่เค้าว่าดี เริ่มต้นด้วยครีมต่างๆก่อนเลย 

       ของที่ใช้ช่วงนั้น ก็จะประมาณนี้ นี่คือแค่ส่วนนึงของซากอารยธรรมที่เราใช้ลดฝ้านะ 5555 และพอตั้งใจทาทุกวันเช้าเย็น ด้วยความมั่นหน้าและมันโหนกว่าหน้าอิชั้นจะใสปิ๊งสวยปังก็งานนี้และในที่สุด!!…….

       คือหน้าน่ะใสขึ้นนะ ขาวขึ้น ดูอิ่มน้ำ สภาพผิวดูดีขึ้นเยอะ แต่เรื่องฝ้าก็คือ ไม่เห็นผลแต่อย่างใดเจ้าค่ะ

       ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้ อิชั้นคาดว่าน่าจะพร้อมกันแล้ว กับสภาพซากของอิชั้น  ขอเปิดแบบไม่สปอยไปเลยแล้วกัน คนอ่านคงจะรับได้แล้วแหละ (มั้ง)  งั้นขอไม่เกรงใจ มาเปิดหน้าให้ดูความจริงชัดๆกันไปเลย! 

       คนอื่นใช้เริ่ดดเชียย แล้วทำไมชั้นใช้ไม่ได้ผล !?

       อะหรืออ..อะหรือว่า.. แต้มบุญอิชั้นมีไม่ถึงง หรือหนังหน้าเราจะด้านเกินไปจนครีมทำอะไรไม่ได้เลย? 

       ตรงนี้ก็หาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้เหมือนกัน อ่ะงั้นต้องแอดวานซ์ขึ้น ไปค่ะ ไปคลินิก!! ก็ไปมาหลายที่นะ ไปปรึกษากับคุณหมอโดยตรงเลย หาข้อมูลด้วยตัวเองด้วยอีกที และแล้วความอยากสวยมันก็ค้ำคอ จัดเซ็ตใหญ่ซื้อเหมาคอร์สรักษาฝ้ามาจ้าาา  

       เอาให้มันรู้กันไปว่าจะหายไม่หาย ช่วงนั้นคือแวะเข้าคลินิกประหนึ่งบ้านหลังที่สอง ทั้งเลเซอร์ลดเม็ดสี+ดึงเม็ดสี ทำPeeling ทำเมโสหน้าใส เหมาทำแทบจะทุกรายการที่มีในคลินิกกันไปเลย คือหน้าใสขึ้นนะ แต่ฝ้าจางลงไปแค่นิดเดียวเอง

       จนถึงตอนนี้ก็เริ่มคิดแล้วนะว่าเราหน้าด้านไปป่ะวะ ทำไมไม่ยักหายสักที คราวนี้เราเลยลองเปลี่ยนคลินิกเลยค่ะ(ยัง ยังไม่เข็ดอีก) เลือกเอาคลินิกที่ดังๆไปเลย แพงเท่าไรก็สู้ ครั้งนี้เลือกทำเลเซอร์ลดฝ้ากับคลินิกใหม่ ที่ราคาก็แรงไม่เบา ซึ่งตอนนั้นเราคิดว่าดีแน่ๆได้ผลแน่ๆ “เพราะของแพงมันก็ = ของดีอ่ะเนอะ”  …นี่ก็ทำไปด้วยใจคาดหวังเต็มที่ว่าจะหายสักที [ads]

     เฮ้ย! คราวนี้ได้ผลเด้อ  หลังทำฝ้าจางลงจริงค่ะ รูปนี้แอบใช้ฟิลเตอร์ช่วยนะคะ แต่จริงๆก็ถือว่าจางมากในตอนนั้น ก็เป็นปลื้มมาก เลยไปทำต่ออีกสองสามครั้งจนจางลงกว่าเดิมไปในจุดที่เราพอใจแล้ว เราเลยไม่ได้ทำต่อ แบบมั่นใจมากๆว่าหายแล้ว ได้เวลาคืนสังเวียนความสาว พร้อมที่จะโชว์หน้าสวยๆ ให้ประชาชนได้เห็นอีกครั้ง
แต่ๆ ก็นั่นแหละค่ะทุกคน ถ้าอะไรมันง่ายไปหมดโลกนี้คงไม่มีคนจิตตกแบบเราแน่ๆ 5555555

      ขั้นตอนการทำก็แค่เข้าไปคุยกับหมอ บอกปัญหากับหมอไปตรงๆเลยว่าอยากรักษาฝ้าที่หน้าตัวเองให้หาย รักษามาหลายแบบ ทั้งครีมทั้งเลเซอร์นั่นนี่ก็เหมือนฝ้าไม่ดีขึ้นสักทีค่ะหมอ คุณหมอเล่าให้ฟังค่ะว่าผิวคนเรามันมีหลายชั้น ตามความเข้าใจของเราอ่ะนะ ฝ้าเนี่ยอยู่ในชั้นผิวที่ลึกมาก ครีมบำรุงมันเข้าไปไม่ถึงฝ้า และการเลเซอร์ฝ้าโดยทั่วไปเนี่ยมันคือการพยายามเอาความร้อนผลักเข้าไปในผิวชั้นลึกสุด ทำให้หน้าแห้งและบาง และมีโอกาสทำให้เป็นฝ้าง่ายขึ้นกว่าเดิมด้วย

       เอ้าาา !!! นี่อิชั้นวนอยู่ในลูปของการรักษาฝ้าแบบไม่มีที่สิ้นสุดมาตลอดหรออออ ข้อดีของการฉีดคือมันเข้าไปรักษาได้ลึกแบบตรงจุด ช่วยหยุดการสร้างเมลานินอะไรงี้ ที่สำคัญคือเห็นผลไวกว่าเลเซอร์ด้วย

      นี่ก็คาดหวังสูงลิ่วว่าหายแน่ๆแล้ว รีบตกลงโอเค แล้วขึ้นเขียงให้คุณหมอจัดการไปเลย ในใจคิดนี่ชั้นพาชีวิตดำเนินมาถึงจุดนี้แล้วสินะ อ่ะอยากสวยต้องอดทน อยากเปลี่ยนเป็นคนละคนแบบไวๆ ก็ต้องพยายามต่อไป ฮึ๊บๆ

       หลังออกมาจากห้องสดๆร้อนๆ หน้ายังมีแดงๆจากการฉีดอยู่ แต่สิ่งหนึ่งที่เห็นชัดก็คือฝ้ามันจางลงจริงๆ เชื่อล่ะที่บอกว่าเห็นผลไวกว่าเลเซอร์ ดูแล้วรู้สึกมีกำลังใจขึ้นเยอะว่าฝ้าจะหายแน่ๆล่ะ แต่มันก็มีข้อเสียอยู่นิดหน่อยสำหรับคนที่กลัวเข็มเพราะวิธีนี้คือการเอาเข็มแทงลงไปที่หน้าเลย แต่ก็ไม่เจ็บอย่างคิดไว้นะ คือพอรู้สึกแหละ แต่ไม่ได้มาก เราว่าสักยังเจ็บกว่า อยู่ในจุดที่แบบชิลๆ 

       ส่วนในด้านการดูแลตัวเองหลังฉีดฝ้า เราก็มีใช้ครีมของทางคลินิกที่ให้มาบ้าง ล้างหน้าด้วยเจลล้างหน้า แล้วก็เน้นใช้ครีมที่อ่อนโยนกับผิวเป็นพิเศษ เพราะหน้ายังเจ็บอยู่ เซตครีมบำรุงที่ใช้เลยเป็นครีมที่คลีนเวอร์ อ่อนโยนสุดๆ มีแม้กระทั่งครีมเด็กเลยทีเดียว จิ๊กของลูกมาใช้ 555 อันนี้ใครอยากใช้แบบไหนก็แล้วแต่สะดวกเลยนะ และผลลัพธ์ที่ได้มาจากการบากบั่นรักษาฝ้าด้วยการฉีดและก็ฉีด ก็ทำให้อิชั้นสามารถแต่งหน้าใสๆ

        หมอก็มีให้คำแนะนำเพิ่มเติมมานะ ว่าต้องดูแลผิวยังไงให้หน้าห่างไกลฝ้า แล้วก็ลดโอกาสการกลับไปเป็นซ้ำด้วย เราก็ดูแลตัวเองตามนั้นอย่างเคร่งครัดเลยแหละ อยากให้หน้าใสๆนี้อยู่กับเราไปตลอดเลยยย อยากบอกทุกคนว่าเป็นคุณแม่ก็อย่าหยุดสวยค่ะ ดูแลคนอื่นแล้วก็อย่าลืมที่จะดูแลตัวเองด้วยนะ เราจะเป็นทั้งแม่ที่ดีและก็แม่ที่สวยด้วยในเวลาเดียวกัน อิอิ

        อีกอย่างสมัยนี้ไม่ว่าปัญหาผิวแบบไหนก็ไม่ได้น่ากลัวมากอย่างที่คิดนะคะ ไม่ว่าจะสิว ฝ้า กระ รอยแผลเป็น มีวิธีรักษาให้หมดแหละ โชคดีที่เจอคลินิกให้คำแนะนำดีด้วยแหละ จริงๆไม่ว่าจะเป็นคลินิกไหนถ้าเราเจอวิธีที่เหมาะกับเราจะดีที่สุดค่ะ แต่ทางที่ดีที่สุดเลยอย่าทำตัวเองให้เป็นฝ้าดีกว่าค่ะ ออกจากบ้านก็ทากันแดดด้วย และเลือกใช้เครื่องสำอางซะหน่อย บางตัวดีสำหรับคนอื่นไม่ใช่ว่าจะดีกับเรานะเอ้ออ

         ทุกวันนี้เราดูแลหน้าตัวเองดีมากกกกกก เข็ดแล้วไม่อยากกลับไปเป็นอิเพิ้งหน้าพังอีก จะเป็นคุณแม่ยังสวยให้คุณลูกและอีสามีไปนานๆค่าา

       ไม่อยากจะเชื่อสายตาเลยค่ะ จากฝ้าหนาๆ กลับกลายเป็นผิวสวยใส และที่สำคัญคือ การทาครีมกันแดดป้องกันผิวเสียจากแดด ที่ทุกคนต้องทากันไว้ตลอดค่ะ

เรียบเรียงโดย : thaihitz.com ขอขอบคุณข้อมูลจาก สถานะเศษใจ 


advertisement