อัยการชี้ชัด กางสัญญาสร้างรถไฟฟ้า พร้อมเงื่อนไขเอกชนต้องรับผิดเหตุถนนทรุด

      เมื่อวันที่ 25 กันยายน ดร. ธนกฤต วรธนัชชากุล อัยการผู้เชี่ยวชาญ และอาจารย์พิเศษผู้บรรยายวิชากฎหมายวิธีพิจารณาความและกฎหมายพยานหลักฐาน ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ได้โพสต์เฟซบุ๊กเกี่ยวกับความรับผิดชอบตามสัญญาจ้างก่อสร้าง กรณีถนนทรุดตัวหน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาล

ถนนทรุดตัวหน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาล 

      โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ ระยะทาง 23.6 กิโลเมตร มีสัญญาจ้างก่อสร้างทั้งหมด 6 สัญญา สำหรับจุดที่เกิดถนนทรุดตัวเป็นงานตามสัญญาที่ 1 ซึ่งเป็นงานออกแบบและก่อสร้างอุโมงค์ทางวิ่งและสถานีใต้ดิน ช่วงเตาปูน-หอสมุดแห่งชาติ ระหว่าง รฟม. (ผู้ว่าจ้าง) กับกิจการร่วมค้า ซีเคเอสที-พีแอล (ผู้รับจ้าง) ซึ่งประกอบด้วย บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) สัดส่วน 55% และบริษัท ชิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) สัดส่วน 45% มูลค่าตามสัญญา 19,430 ล้านบาท

      ทั้ง 6 สัญญาของโครงการนี้ ถูกจัดทำร่างเป็นภาษาอังกฤษ เพื่อใช้ประกาศประกวดราคานานาชาติ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2560 ที่ให้หน่วยงานของรัฐดำเนินการประกวดราคานานาชาติสำหรับงานก่อสร้างมูลค่า 5,000 ล้านบาทขึ้นไป และเป็นงานที่มีความซับซ้อน ต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูงและบุคลากรผู้เชี่ยวชาญ

      ดร. ธนกฤตกล่าวว่า หากพิจารณาความรับผิดชอบตามสัญญาที่ 1 ผู้รับจ้างจะต้องรับผิดตามสัญญาในกรณีต่าง ๆ เช่น การประกันภัยโครงการก่อสร้าง ครอบคลุมความเสี่ยงทุกชนิด รวมถึงความเสียหายต่อทรัพย์สิน การบาดเจ็บหรือเสียชีวิตของบุคคลภายนอก และความเสียหายอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นจากการทำงานก่อสร้าง

      กรณีความเสี่ยงที่ประกันภัยไม่ครอบคลุม และไม่ใช่เหตุสุดวิสัย ผู้รับจ้างต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมด

      สัญญาจ้างก่อสร้างของภาครัฐยังกำหนดให้ผู้รับจ้างต้องรับผิด หากเกิดความเสียหายจากการกระทำหรืองดเว้นไม่กระทำการ โดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อของผู้รับจ้าง ลูกจ้าง หรือผู้รับจ้างช่วง รวมถึงกรณีผู้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บจากการออกแบบและก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้า

      นอกจากนี้ หากเกิดความเสียหาย ค่าใช้จ่าย หรือผลกระทบต่อบุคคลภายนอก อันเนื่องจากความผิดพลาดหรือการละเว้นของผู้รับจ้างหรือผู้รับจ้างช่วง ผู้รับจ้างต้องชดใช้ค่าเสียหายและค่าใช้จ่ายทั้งหมด และหากผู้รับจ้างหรือผู้รับจ้างช่วงไม่ปฏิบัติตามสัญญา ข้อใดข้อหนึ่งจนเกิดความเสียหาย ผู้รับจ้างก็ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายเช่นกัน

      ดังนั้น หากตรวจสอบพบว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นกับถนน ทรัพย์สินของประชาชน อาคารของสถานีตำรวจนครบาลสามเสน หรือทรัพย์สินของทางราชการ เกิดจากความผิดพลาด จงใจ หรือประมาทเลินเล่อ การละเว้น หรือไม่ปฏิบัติตามสัญญาของกิจการร่วมค้า ซีเคเอสที-พีแอล ผู้รับจ้าง ลูกจ้าง หรือผู้รับจ้างช่วง ผู้รับจ้างจะต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมด รวมถึงค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นตามมาจากความเสียหายดังกล่าว

      ขณะนี้ยังต้องรอผลการตรวจสอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อระบุสาเหตุและผู้รับผิดชอบของเหตุการณ์ถนนทรุดตัวต่อไป 

เรียบเรียงโดย : thaihitz.com