แอร์เย็นเกาะเป็นน้ำแข็ง ช่างแกะดูเห็นแทบช็อก นอนสูดสิ่งนี้เข้าไปตั้งนาน

        เครื่องปรับอากาศ หรือ แอร์ เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จำเป็นอย่างมากในตอนนี้ ด้วยอากาศที่ร้อนระอุกันแบบทั่วประเทศ แตะเกือบ 40 องศาฯ แทบทุกวัน ต้องพึ่งแอร์ที่ทำงาน กลับมาที่บ้านถ้ามีแอร์ก็ช่วยให้อยู่บ้านขึ้นเยอะ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยค่าไฟที่แพงขึ้น สิ่งหนึ่งที่ช่วยในแอร์ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพคือ ล้างทำความสะอาดแอร์อย่างสม่ำเสมอ ช่างแอร์มักแนะนำให้ล้างแอร์ทุก ๆ 6 เดือน  

      ล่าสุด ทางด้านผู้ใช้เฟสบุ๊ก Umum Tanita ได้โพสต์รีวิวล้างแอร์ที่บ้าน ติดตั้งใช้มา 11 ปี เกิดปัญหาแอร์เป็นน้ำแข็ง พอให้เช็กมาเช็กดูข้างในถึงกับช็อก นอนสูดพวกนี้เข้าไปตั้งนานโดยไม่รู้ตัว โดยได้โพสต์ระบุว่า….

       ที่ผ่านมาฉันนอนสูดอะไรเข้าไป แอร์ที่บ้านยี่ห้อ D ไม่ทราบรุ่น ติดตั้งมาพร้อมกับบ้านเมื่อ 11 ปีที่แล้ว ช่วง 2-3 ปีหลังมานี้ เกิดปัญหาคือ แอร์เป็นน้ำแข็ง น้ำไหลจ๊อกเหมือนเปิดก๊อก แอร์ไม่เย็น และพัดลมเสียงดัง ปีล่าสุด อาการหนักขนาดเป็นเดือนละครั้ง 

       ช่วงแรกๆ ที่มีปัญหา เราก็จะเรียกช่างมาดูตลอด ช่างก็จะล้างแอร์ให้ (ล้างแบบทั่วไปในราคา 500-700 บาท) เท่ากับว่าปีนึงเราจะล้างแอร์ตัวนี้มากกว่า 2 ครั้งอีก หลังๆเริ่มชิน ขี้เกียจนัดช่าง ก็ปล่อยๆ ปิดย้ายไปนอนห้องอื่นสองสามวัน กลับมาเปิดใหม่ก็หาย แต่แล้วเดี๋ยวก็เป็นอีกน่ะแหละ เคยถามช่างว่าปัญหานี้เกิดจากอะไร เพราะอยากแก้ให้หายขาดเสียที

ล้างแอร์ 

       – ช่าง (1) บอกว่า เพราะท่อระบายน้ำตัน ล้างก็หาย แต่หลังจากล้าง ไม่นานก็เป็นอีก

       – ช่าง (2) บอกว่า เพราะตอนติดตั้งท่อน้ำทิ้งไม่ได้ระดับ น้ำเลยไหลย้อนกลับมา (แต่ก็ไม่ได้แนะนำว่าต้องทำท่อใหม่หรือทำอะไรยังไง ก็แค่ล้างแล้วก็กลับไป) 

สภาพ

       ล่าสุด เห็นโพสจากกิจกรรม “ผู้ขายที่รักคึกคักเวลาตอบคำถาม” ตอน ช่างแอร์ที่รัก ของแอดอุ้ย มีช่างแอร์ที่มาร่วมกิจกรรม (คุณแจ็ค) มาให้ข้อมูลอย่างละเอียด และร้านอยู่ใกล้บ้าน เลยติดต่อให้มาช่วยดู สรุปแล้ว แอร์ไม่ได้มีปัญหาอะไรเลยค่ะ แค่ “สกปรกมาก” (ตามภาพประกอบ) และต้องล้างแบบยกเครื่อง (เพิ่มเติมความรู้จากในเม้น – ศัพท์ในวงการเขาเรียกกันว่า “แขวนคอยล์”) นี่เห็นภาพแล้วช็อคมากเพราะเราก็ล้างแอร์เป็นประจำ น้ำหอมปรับอากาศในห้องก็ไม่ได้ใช้ ห้องก็ทำความสะอาดทุกวัน ยังเขรอะได้ขนาดนี้เลย แสดงว่าล้างแบบธรรมดา มันเข้าไม่ถึงจุดสกปรกได้จริงๆ 

       วันนี้ช่างถอดชิ้นส่วนลงมาล้าง ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง มีลงน้ำยาทำความสะอาด ฆ่าเชื้อ และล้างแผงคอยล์เย็น ดูแล้วงานล้างละเอียดกว่าล้าง 500-700 บาทเยอะค่ะ ค่าบริการจึงสูงกว่าเยอะ (ของเรา 1,500 บาท) ล้างเสร็จ แอร์เย็น เสียงเบาลง เดี๋ยวต้องดูระยะยาวอีกทีค่ะ ว่าถ้าครบเดือนแล้ว ปัญหาเดิมจะกลับมาอีกหรือไม่ 

       ยังไงแนะนำให้ลองล้างแบบยกเครื่องดูบ้างนะคะ ถึงแอร์จะยังไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่เราก็คงไม่อยากสูดอากาศผ่านคราบผ่านเมือกพวกนี้กันอะเนอะ

       (*เพิ่มเติมภาพตอนล้างแผงคอยล์เย็นของเรา และเพิ่มภาพการล้างแอร์”ธรรมดา” จากอินเตอร์เนทเพื่อเป็นตัวอย่างให้เห็นความแตกต่างค่ะ หากสนใจลองเสิร์ชใน google ว่า “ล้างแอร์ธรรมดา” ”ล้างแอร์ใหญ่” “ตัดล้าง” “ล้างแขวนคอยล์” จะพบเวปร้านแอร์ต่างๆที่ทำข้อเปรียบเทียบการล้างแต่ละแบบให้ค่ะ

ก้อนพวกนี้ตันรูระบายน้ำ 

       ทั้งนี้ จากการอ่านข้อมูลเอง การล้างแอร์ธรรมดาเพื่อรักษาความสะอาดเป็นประจำ ก็มีประโยชน์ค่ะ แต่คิดว่ามันเข้าไม่ถึงหลายจุด เพราะตลอด 11 ปี แอร์ตัวนี้ล้างแบบธรรมดาทุกปี ปีละ 1-2 ครั้ง (และมากกว่า 3 ครั้งต่อปีในช่วงที่เริ่มมีปัญหา) แต่ก็ยังพบความสกปรกในซอกมุมอื่นๆที่การล้างแอร์ธรรมดาเข้าไม่ถึง ถ้าเปรียบเทียบคงเหมือนการถอดล้างเครื่องซักผ้าค่ะ)  

สะอาดแล้ว 

ความคิดเห็นจากชาวเน็ต 

ซื้อใหม่เถอะใช้คุ้มแล้ว 

        ที่บ้านล้างใหญ่มาตลอด 5 ปีค่ะ ถอดทุกชิ้นแบบนี้เลย แต่ราคาถูกมากค่ะ 9000-12000 BTU ราคาตัวละ 500 บาท 20000+ ตัวละ 1,000 บาท ที่บ้านมี 3 ตัว เล็กสอง ใหญ่หนึ่ง ล้างครั้งละ 2,000 บาท พิกัดพระราม2 

              นอนสูดอะไรเข้าไปเนี่ย แอร์ต้องลองอย่างสม่ำเสมอ อย่าให้สะสมจนดำขนาดนี้ อาจจะเย็นแต่ไม่ดีต่อสุขภาพแน่ๆ ดูแล้วเช็กแอร์ที่บ้านด่วน

 เรียบเรียงโดย : thaihitz.comขอขอบคุณข้อมูลจาก Umum Tanita