advertisement

ชาวบ้านร้อง ส่งเงินหลักแสนซื้อบ้าน แต่ได้สภาพแคมป์คนงานสังกะสี


advertisement

          ใครที่ตัดสินใจที่จะซื้อบ้านสักหลังเป็นของตัวเอง ให้ครอบครัวได้พักอาศัย ก็ต่างอยากได้บ้านที่ดีน่าอยู่กันทั้งนั้น ซึ่งปัจจุบันนี้มีบ้านโครงการเยอะมาก ตั้งแต่ราคาต่ำๆ จนถึงหลักล้าน ตามกำลังของแต่ละคนจะซื้อจะผ่อนไหว  

        ล่าสุด เป็นประเด็นที่สังคมให้ความสนใจเป็นอย่างมาก สำหรับ กรณีชาวบ้านใน อ.บางบัวทอง กว่า 30 คน นำหลักฐานเข้าขอความช่วยเหลือกับ ทนายโป้ง หรือ เกียรติคุณ ต้นยาง ว่าที่ ส.ส.พรรคก้าวไกล เขต 7 นนทบุรี และประธานชมรมทนายความจิตอาสา หลังส่งเงินซื้อบ้านหลักแสนบาทโครงการมั่นคง จ.นนทบุรี แต่กลับได้บ้านสภาพแคมป์คนงาน ไม่ตรงปก บางคนทนไม่ไหวย้ายออก แต่บางครอบครัวต้องทนอยู่เพราะไม่มีเงินซื้อบ้านใหม่  

        โดยในรายการโหนกระแส ออกอากาศวันที่ 13 มิถุนายน 2566 สัมภาษณ์ อัฐ, แหม่ม, ป้าเพ็ญ, ลำไย ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน มาพร้อม ทนายโป้ง ที่เข้ามาดูแลเรื่องนี้ 

        ได้เล่าเรื่องราว เผยว่า โครงการนี้มันมีการโกงกินกันเกิดขึ้น ปีแรกเป็นโครงการบ้านมั่นคง เป็นโครงการของทางภาครัฐ เพื่อให้ประชาชนมีที่อาศัย พัฒนาความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น ผ่านหน่วยงาน พม. และ พอช. จังหวัด จากนั้นจากการดำเนินการออมหรือส่งมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง ส่งให้ประธาน หรือคุณปรีชา


advertisement

        บ้านมั่งคงพอมีการตกลงกับภาครัฐว่าเรามีคนกลุ่มนี้ต้องการมีบ้าน ภาครัฐก็เสนอเลยโดยผ่าน พม. พอช. จะทำบ้านมั่นคงแบบไหน ทางนี้เลือกทำแบบ ?

        มีการเอาเงินตัวเองออมไว้เพื่อซื้อที่ดินแล้วปลูกบ้าน โดยคนดูแลเงินคือใคร ?


advertisement

          อัฐ : คุณปรีชา ประธานของสหกรณ์นี้ ใช้ชื่อว่าสหกรณ์ชุมชนตลาดเก่ารวมใจพัฒนา  ตอนแรกมีสมาชิกร้อยกว่าคน ทางสมาชิกทุกคนก็เห็นด้วยว่าจะมีบ้านมีอะไรขึ้นมา ก็ดำเนินการออมกัน

        เมื่อก่อนสมาชิกร้อยกว่าคนอยู่ที่ไหน ?

        อัฐ : อยู่แถว ๆ นั้นแหละครับ 

        ใครเริ่มมาชวนตอนแรก ?

        แหม่ม : ตอนนั้นเดือดร้อนที่อยู่ ก็ชวนกันมาเข้าโครงการนี้ เราอยากได้บ้าน เราไม่มีบ้าน


advertisement

        อัฐ : แล้วเราเกิดความเดือดร้อนจากการที่เกิดไฟไหม้ตลาดเก่าที่บางบัวทอง สักประมาณ 10 กว่าปีที่แล้ว ก็เลยไม่มีที่อยู่ที่อาศัยกัน

ประธานเราแต่งตั้งขึ้นมา ?

          แหม่ม : ใช่ค่ะ ชื่อปรีชา เราก็ตกลงกันว่าเราอยากได้บ้าน ต้องออมเพื่อซื้อที่ เอาเงินไปสมทบ เพื่อจะได้ไปกู้ พอช. เอาเงินจาก พอช. ไปซื้อที่ดิน ก่อนเราไปกู้เราต้องจัดตั้งสหกรณ์ก่อน และไปกู้เงินกับ พอช. พอช. เอาเงินมา สหกรณ์ก็เป็นที่รองรับของเงินตัวนั้น สหกรณ์ก็เอาเงินมาให้เรา เพื่อไปซื้อที่ดินแปลงนั้น   

        วันนี้สื่อที่นำเสนอไป เขาใช้หัวข้อว่าบ้านไม่ตรงปก เพราะมีการนำเสนอเป็นบ้านให้พวกคุณ ใครเป็นคนนำเสนอให้ ?

          อัฐ : น่าจะเป็นประธานกับกรรมการชุดเก่า บอกว่าบ้านเป็นแบบนี้ ทำเป็นโครงการขึ้นมา

เขาบอกราคาเท่าไหร่ ?

          แหม่ม : 5.5 แสน 

นำเสนอมา คนสนใจบ้านนี้กี่คน ?

          อัฐ : 100 กว่าคนครับ จับจองบ้านแบบนี้ 102 คน หลังละ 5.5 แสน

          สิ่งที่ตกลงกันในตอนแรกเริ่ม นายปรีชา ซึ่งเป็นประธาน บอกว่า คนที่ส่งเงินออมให้ครบถ้วน ตรงเวลาก่อน ก็จะได้เริ่มปลูกบ้านก่อน กำหนดคือถ้าใครส่งถึง 5 หมื่น หรือ 1 แสนบาท จะได้สร้างบ้านก่อน โดยระหว่างที่รอ เขาจะสร้างบ้านน็อกดาวน์ให้อยู่ชั่วคราว 3 เดือน แต่ปรากฎว่าเอาเข้าจริง ได้เป็นบ้านเพิงสังกะสี อยู่มาแล้ว 3 ปี สภาพทรุดโทรมป้องกันลมฝนแทบไม่ได้ แล้วเงินที่ส่งไปหลายปีหมดไปเป็นแสน แต่สุดท้ายนายปรีชาหนีหายไปพร้อมเงิน ติดต่อไม่ได้ ทำให้บ้านไม่ได้สร้างต่อ ต้องอยู่ในเพิงพักอาศัยทรุดโทรมหลายปี 

       ด้าน คุณศศลักษณ์ มณีนิล ผอ.กลุ่มส่งเสริมสหกรณ์ 2 สนง.สหกรณ์ จ.นนทบุรี โฟนอินเข้ามา เปิดเผยว่า ตามหลักแล้วโครงการนี้เป็นการให้กู้เงินเพื่อซื้อที่ดินสร้างที่อยู่อาศัย โดย พอช. จะเป็นผู้ให้กู้ โดยจะพิจารณาว่ สมาชิกในสหกรณ์มีกำลัง มีวินัยทางการเงิน มีความพร้อม ที่จะกู้ยืมเงินสร้างบ้านได้หรือไม่ ปรากฎว่าสหกรณ์กลุ่มชาวบ้านกลุ่มนี้ ยื่นขอกู้แต่ พอช. พิจารณาแล้วไม่ผ่าน จึงยังไม่ให้กู้ แต่ทราบว่าชาวบ้านเดือดร้อน จึงอนุมัติเงินก้อนหนึ่งมาสร้างที่อยู่อาศัยชั่วคราวให้ก่อน แต่เงินที่ต้องส่งมาเพื่อขออนุมัติสร้างบ้าน สหกรณ์นี้ปิดบัญชีไม่ได้มาหลายปีติดต่อกัน จึงมีความเป็นไปได้ว่าประธานสหกรณ์ที่หายไป เป็นผู้ตัดตอนเงินของชาวบ้านไป ล่าสุดมีการแจ้งความเอาผิดนายปรีชาไปแล้ว และสมาชิกมีการแจ้งยกเลิกการจัดตั้งสหกรณ์ไปแล้ว ต้องไปชำระหนี้กันไป แล้วไปจัดตั้งเป็นสหกรณ์กันใหม่ เริ่มส่งเงินใหม่

          ขณะที่นายสยาม นนท์คำจันทร์ ผู้ช่วย ผอ.พอช. โฟนอินเข้ามาชี้แจงว่า ตอนนี้ พอช. ต้องเร่งเข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านที่เดือดร้อน สิ่งแรกที่ต้องทำอย่างเร่งด่วนคือเรื่องที่อยู่อาศัยชั่วคราว ต้องลงพื้นที่ แล้วเข้าไปแก้ไข สร้างให้ใหม่ โดยจะลงพื้นที่ในวันเสาร์-อาทิตย์นี้เลย ส่วนเรื่องของนายปรีชา ที่หอบเงินหนีหายไปแล้ว ก็ต้องให้เป็นไปตามอำนาจตามกฎหมาย เป็นหน้าที่ของตำรวจดำเนินการต่อไป ส่วนทาง พอช. จะเน้นเข้าไปฟื้นฟูชาวบ้านในกลุ่ม ให้ได้มีที่อยู่อาศัย ทั้งที่พักชั่วคราวต้องไปทำให้แข็งแรง ปลอดภัย และแผนงานเดิมที่จะต้องสร้างบ้านตามแผนเดิม 

คลิกเพื่อ >>>ชมคลิป<<<

       ต้องติดตามกันต่อไปว่าเรื่องนี้จะมีแนวทางแก้ไขตกลงกันยังไง จ่ายเงินเป็นแสนได้บ้านแบบแคมป์คนงานแบบนี้เป็นใครก็ไม่ไหว 

เรียบเรียงโดย : thaihitz.com ขอขอบคุณข้อมูลจาก โหนกระแส  


advertisement