advertisement
กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือ กยศ. เป็นหน่วยงานของรัฐอยู่ในกำกับดูแลของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีฐานะเป็นนิติบุคคล โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการศึกษาด้วยการให้เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา ในลักษณะต่าง ๆ ตามพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2560
ล่าสุด (15 พฤษภาคม 2567) นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ประธานคณะ กมธ. การสวัสดิการสังคม แถลงข่าว ผลการประชุมคณะ กมธ. เรื่องการดำเนินงานของกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ซึ่งสรุปคร่าว ๆ ได้ดังนี้
– ภาพรวมของ กยศ. มีผู้กู้ยืมตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันจำนวน 6,809,598 ราย
– เงินให้กู้ยืมนับตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน มีจำนวน 769,776 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567)
– ตั้งแต่ปี 2539 – 2560 มีการใช้งบประมาณแผ่นดินเพื่อจัดสรรให้กู้ยืม กยศ. ทั้งหมด 468,673 ล้านบาท
– แต่ตั้งแต่ปี 2561-2567 กยศ. ไม่ได้ใช้งบประมาณของแผ่นดิน
– ในปีการศึกษา 2567 กยศ. ทำกรอบให้กู้ยืมได้ทั้งหมด 769,009 ราย เป็นจำนวนเงิน 48,344.4208 ล้านบาท
advertisement
– ปัจจุบันมีเงินต้นที่ผิดนัดชำระหนี้เป็นจำนวนเงิน 97,110 ล้านบาท
advertisement
![](https://thaihitz.com/wp-content/uploads/2024/05/FtwqvIBJW2aROMzE4M2j-1024x576.webp)
ทั้งนี้ การกู้ยืมเงินจาก กยศ. ไม่ได้กำหนดให้มีผู้ค้ำประกันแล้ว และ กยศ. มีลักษณะเป็นกองทุนหมุนเวียน และเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2567 มีการนำเสนอส่วนแผนงานการติดตามหนี้ของ กยศ. โดย สาเหตุเกิดจากผู้กู้ขาดวินัยทางการเงิน
สำหรับปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงานของ กยศ. ที่ขาดสภาพคล่องนั้น ในปีงบประมาณ 2568 กยศ. ได้จัดทำคำของบประมาณแผ่นดิน เป็นจำนวนเงินประมาณ 19,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะได้รับจัดสรรประมาณ 1,000 ล้านบาท สำหรับแนวทางแก้ไขปัญหาในกรณีงบประมาณไม่เพียงพอจะขอใช้งบประมาณในส่วนของงบกลางเพื่อเพิ่มสภาพคล่องของ กยศ. ต่อไป
คณะ กมธ.ได้พิจารณาแล้ว เห็นว่า กยศ. เป็นการลงทุนในทรัพยากรมนุษย์ด้านการศึกษาที่มีความสำคัญในการพัฒนาประเทศในอนาคต จึงควรได้รับการสนับสนุนงบประมาณที่เพียงพอต่อการดำเนินงาน จึงมีข้อเสนอแนะในการแก้ไขปัญหาดังนี้
1. รัฐต้องเข้าไปสนับสนุนวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีไปที่กองทุน กยศ. เพื่อขับเคลื่อนและตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนที่ต้องการทุนการศึกษาต่อไป
2. สร้างความตระหนักรู้ให้กับผู้กู้ช่วยกันชำระหนี้ให้กองทุน กยศ. เพื่อเป็นทุนการศึกษาให้กับคนรุ่นต่อไป
เรียบเรียงโดย : thaihitz.com ขอขอบคุณข้อมูลจาก สภาผู้แทนราษฎร
advertisement