หนุ่มสุดเครียด ทำไงดีถึงจะหาเงินไปคืนได้ เห็นดอกเบี้ยแทบลมจับ

       หนุ่มคนหนึ่งได้ตั้งกระทู้ปรึกษาปัญหาเกี่ยวกับยืมเพื่อนมา 200,000 ต้นปี คืนไปแล้ว 270,000 ยังติดดอกอีก 90,000 ควรแก้ไขยังไงดี ตอนนี้คือเครียดมาก

       โดยหนุ่มคนนี้เล่าว่า  ยืมเพื่อนมา 200,000 ช่วงกุมภาพันธ์ ตอนแรกตกลงดอกไว้ที่ 10% ต่อเดือน (ไม่มีสัญญา) หลังจากนั่น พิษ ศก. และอุบัติเหตุ ทำให้ธุรกิจที่ทำล่ม เลยมีการจ่ายดอกล่าช้า จ่ายเลท 1-2 เดือน (ปกติต้องจ่ายดอกทุกเดือน) เพื่อนขอคืนเดือนเมษายนไม่มีให้ เพื่อนเลยขอปรับขึ้นดอกเบี้ยเป็น 15% ส่วนที่จ่ายดอกช้าโดนคิดเพิ่มดอกรายวันอีก วันละ 1% จากเงินต้น 

         ล่าสุด ปลายมิถุนายนหาเงินก้อน 200,000 มาจ่ายต้นคืนให้แล้ว รวมๆ ที่จ่ายพร้อมดอกเบี้ยไปรวม 270,000 บาท (ปัจจุบัน) แต่ยังมีดอกที่ค้างอีก 90,000 ถ้าไม่จ่ายก็ต้องเสียดอกเบี้ยร้อยละ 15% ต่อเดือนทุกเดือน แต่ตอนนี้ไม่มีจริงๆ

          ควรพูดคุย เจรจา หรือต่อรองอย่างไรดีครับ ตอนนี้เครียดมากเลย ไม่อยากให้เพื่อนเดือดร้อน แต่เราก็ไม่มีจริงๆ 

         ปล. รบกวนขออย่าอ้างอิง หรือให้ร้ายไปถึงคนให้กู้นะครับ เพราะเราเป็นคนยอมรับดอกตรงนั่นเอง ที่ตั้งกระทู้เพราะต้องการหาทางออก แนวทางวิธีการพูดคุยไกล่เกลี่ย และวิธีบริหารดอกเบี้ยที่เหลือ อย่างไรให้เราสามารถเดินหน้าต่อได้ พูดคุยอย่างไรให้สมานฉันท์ ประนีประนอม และรักษาน้ำใจที่สุด ทั้งเราและเพื่อน โดยให้เราสามารถอยู่ได้ด้วย

ด้านความคิดเห็นของชาวเน็ตส่วนใหญ่มองว่า "ยังเรียกว่าเพื่อนหรือ ร้อยละ 10 ต่อเดือน ใครๆก็ยอมให้ยืม"

"ถ้าพิษปีนี้ คงไม่เกี่ยวโควิดแล้วครับ หลักๆ ก็เศษฐกิจไทยเองมันแย่ ตามมาตรฐานคนทำธุรกิจส่วนตัว ถ้าไม่มีหนี้ก็จะได้ประมาณ10%ของเงินทุนนี้แหละ มีหนี้ด้วยควรพยายามเพิ่มขึ้น หรือขายทรัพย์สินปลดหนี้ให้หมดดีกว่า"

"เพื่อนรักหักดอกโหด" "ถ้าเป็นผม..หาอะไรมาขายออกไป ให้พอจ่ายหนี้ จ่ายเสร็จเลิกคบ..เลิกคุย ไม่สมควรเรียกว่าเพื่อนหรอกคนแบบนี้.."

        จะเห็นได้ว่า จากรณีดังกล่าวนั้นหลายคนมองว่า เพื่อนรักหักดอกโหดมาก ซึ่งดอกเบี้ยร้อยละ 10 ต่อเดือน มันเยอะมากๆ หาเงินยังไงก็หาไม่ทันแน่นอน ส่วนมองว่าแบบนี้ไม่เรียกว่าเพื่อนกันแล้ว

เรียบเรียงโดย : thaihitz.com ขอขอบคุณข้อมูลจากเพจ Pantip และ สมาชิกหมายเลข 789015