advertisement

เผยยอดเงินบริจาค น้องวีน ญาติยืนยันจนจริง ที่มี iPhone ไว้เพื่อศึกษาเพิ่มเติม


advertisement

      กลายเป็นประเด็นที่สังคมให้ความสนใจและแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก สำหรับ กรณีที่มีการแชร์เรื่องราวของ น้องวีน นักเรียนวัย 18 ปี ว่าสามารถสอบติดแพทย์ได้ แต่ติดปัญหาเรื่องความยากจน ทำให้ไม่มีเงินมากพอที่จะเรียนสาขานี้ ก่อนที่จะมีประชาชนจำนวนมากบริจาคเงินเข้ามาช่วยเหลือ

      ก่อนที่ต่อมาเพจดังจะออกมาโพสต์แฉว่า น้องวีนนั้นไม่ได้จนจริง เนื่องจากตรวจสอบพบว่า ในอินสตาแกรมมีการโพสต์ภาพการใช้สินค้าราคาแพง เช่น iPhone 12 ราคา 26,600 บาท, Apple Watch series 7 ราคา 15,900 บาท 

      ล่าสุด (9 มกราคม 2566) นายพิเชษ พลอยดำ อายุ 55 ปี ญาติผู้ใหญ่ของครอบครัวน้องวีน กล่าวว่า ตนได้รับมอบหมายจากญาติให้เข้าไปดูแลครอบครัวดังกล่าว ก็พบว่า เป็นครอบครัวที่เปราะบาง ยากจนจริง มีรายได้จากการกรีดยาง รับซื้อเศษยางประมาณ 300-400 บาท บางวันเงินจะซื้อข้าวสารให้ลูกทั้ง 2 คนก็แทบไม่มี เนื่องจากฝนตกหนักไม่ได้ออกไปกรีดยาง ส่วนที่สังคมดราม่าว่าครอบครัวนี้ไม่จนจริง ซื้อโทรศัพท์เครื่องแพง ๆ นั้น น้องวีนไม่ได้เรียนพิเศษ ค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติมจากออนไลน์ เครื่องมือทางเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อสอบศึกษาต่อคณะแพทย์ตามความมุ่งมั่นและความฝันของเด็กจึงมีความจำเป็น


advertisement

      ถึงแม่จะไม่มีเงินก็ต้องหายืมเงินเขามา โดยมีการผ่อนเป็นงวด ๆ เพื่ออนาคตของลูก การที่สังคมกล่าวโจมตี เพราะสังคมไม่รู้ว่าชะตาชีวิตของครอบครัวนี้เป็นอย่างไร ก็ต้องขอขอบคุณโซเซียลที่ได้ทำให้มีผู้มีเมตตาจิตส่งเงินมาช่วยเหลือครอบครัวน้องวีนในครั้งนี้ ส่วนคนที่กล่าวโจมตีน้องวีนเขาคงไม่รู้ว่าความลึกตื้นหนาบาง ไม่รู้ว่าครอบครัวในวันที่ไม่มีจะกินมันเจ็บปวดขนาดไหน และน้องวีนคือต้นกล้าทางการแพทย์ ตนจึงคิดเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ว่าครอบครัวของน้องนั้นมีความทุกข์บนความโชคดีที่พี่น้องประชาชนได้รับการแบ่งบันจิตศรัทธามาให้

      ด้านนายสมคิด ทองสง อายุ 72 ปี อดีต ผอ.โรงเรียนบางแก้วพิทยาคม และ ผอ.โรงเรียนปัญญาวุธ  จ.พัทลุง เผยว่า ยอดเงินขณะนี้มีเงินที่เข้ามาทางระบบบัญชีประมาณ 8 แสนบาทเศษ ส่วนทางอื่น ๆ ตนยังไม่ทราบตัวเลขที่แน่นอน ซึ่งทุก ๆ ฝ่ายตื่นตกใจกับยอดเงินที่มีผู้จิตศรัทธาโอนเข้ามาช่วยเหลือและได้ปรึกษากับนายพิเชษในการปิดบัญชี


advertisement


advertisement

      การที่เขามีโทรศัพท์อะไร เขามีโน๊ตบุ๊กไหมมิได้บ่งบอกว่าเขามีเงิน ถ้าเขามีเงิน ทำไมเขาจึงไม่มาเรียนในตัวจังหวัด การที่เขามีความพร้อมด้านการสมองแต่ไม่ไปเรียนต่อที่โรงเรียนที่มีชื่อเสียง เพราะเขาไม่มีเงิน การที่เขาไปซื้อโน๊กบุ๊กมาใช้เพราะเขาต้องการนำมาค้นคว้าหาความรู้ เพราะโรงเรียนก็ไม่ได้ช่วยเขาทั้งหมด เขาต้องช่วยตัวเองเพราะเขาตั้งใจจะเป็นหมอ จึงต้องใช้สื่อที่ทันสมัย ทำให้แม่ต้องเป็นหนี้นับแสนหรือมากกว่านั้น 

      จึงขอฝากไปยังทุกฝ่ายว่าเวลาเราจะพิจารณาใครจะต้องพิจารณาให้รอบด้าน อย่าเอาสิ่งที่ปรากฏหรือคนอื่นบอกกล่าวว่าเป็นแบบนั้นแบบนี้มาคิดเอง 

เรียบเรียงโดย : thaihitz.com 


advertisement