advertisement
โรคฝีดาษลิง (Monkeypox) ซึ่งเป็นโรคติดต่อจากสัตว์สู่คน และติดจากคนสู่คนได้ โรคนี้พบมากในประเทศแถบแอฟริกากลางและแอฟริกาตะวันตก ได้แก่ แคเมอรูน สาธารณรัฐแอฟริกากลาง คองโก กาบอง ไลบีเรีย ไนจีเรีย และเซียร์ราลีโอน การพบผู้ป่วยในประเทศนอกเขตแอฟริกา เช่น สหรัฐอเมริกา อิสราเอล สิงคโปร์ และสหราชอาณาจักร มักเกิดจากการเดินทางระหว่างประเทศหรือการนำเข้าสัตว์ที่ติดเชื้อ
ล่าสุด ทางด้านผู้ใช้ เฟสบุ๊ก ห้องฉุกเฉินต้องรู้ ได้โพสต์เกี่ยวกับโรคฝีดาษลิงที่กำลังเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งระบาดอย่างหนักในต่างประเทศโดยระบุว่า…
คำถาม: ผื่นฝีดาษลิงกับโรคอีสุกอีใสแยกกันได้อย่างไร?
คำตอบ: จำคำสำคัญไว้ก่อนครับ
1. ผื่นแบบเดียวกันหมด คือ ฝีดาษลิง
ผื่นหลากหลายแบบคือ อีสุกอีใส
2. ผื่นขึ้นที่ฝ่ามือ ฝ่าเท้า คือ ฝีดาษลิง
ส่วนอีสุกอีใสไม่ค่อยมีผื่นที่มือหรือเท้า
3. ต่อมน้ำเหลืองอักเสบพบในฝีดาษลิง
ส่วนอีสุกอีใสแทบไม่ค่อยมี
4. ผื่นขึ้นมากที่แขน ขา มากกว่าลำตัว คือ ฝีดาษลิง
ส่วนอีสุกอีใสผื่นขึ้นที่ท้อง หน้าอกมากกว่าแขนขา
ข้อแรกผื่นแบบเดียวกันหมด คือ ฝีดาษลิง ผื่นหลากแบบ คือ อีสุกอีใส คำว่า อีสุกอีใส ก็คือ วันที่เราตรวจร่างกายคนไข้ จะเจอผื่นแบบ “สุก” คือ เป็นหัวหนองและ “ใส “ คือ เป็นตุ่มน้ำใส คือ เจอผื่นปนๆกันไปหมด
advertisement
แต่ฝีดาษ คำว่าดาษ เหมือน “ดาษดื่น” คือ ผื่นจะลักษณะเหมือนกันไปหมด เช่น วันที่เป็นตุ่มน้ำใส ก็เป็นตุ่มใสไปทั้งตัว หรือวันหลังๆที่กลายเป็นตุ่มหนอง ก็จะเป็นตุ่มหนองไปทั้งตัว
advertisement
ข้อสอง ผื่นอีสุกอีใสแทบไม่ขึ้นฝ่ามือ ฝ่าเท้าเลยครับ แต่ฝีดาษจะขึ้นที่มือและเท้า คงจำเรื่องการปลูกฝีของเอ็ดเวิร์ด เจอเนอร์ บิดาแห่งการผลิตวัคซีนที่ผมเล่าในเพจได้ไหมครับ เขาสกัดฝีดาษวัวมาทำวัคซีน ฝีดาษวัว ติดจากมือของหญิงชาวบ้านที่รีดนมวัวครับ เลยจำได้ง่าย ฝีดาษพบผื่นที่มือและเท้า
ข้อสาม ต่อมน้ำเหลืองอักเสบพบในฝีดาษลิง อันนี้เป็นข้อแยกสำคัญระหว่างฝีดาษรุนแรง (smallpox) กับฝีดาษลิงด้วยครับ ถ้าเป็นฝีดาษลิง คนไข้จะเจ็บต่อมน้ำเหลืองที่คอ ใต้คาง รักแร้ หรือต่อมน้ำเหลืองขาหนีบ แต่อีสุกอีใสหรือฝีดาษรุนแรงไม่ค่อยพบต่อมน้ำเหลืองอักเสบครับ ดังนั้น หากเจอตุ่มน้ำ หรือตุ่มหนองทั่วร่างกาย อย่าลืมคลำต่อมน้ำเหลืองด้วยครับ
ข้อสี่ จากการสังเกตตุ่มของฝีดาษจะกระจายมากที่แขนขา มากกว่าที่ลำตัว แต่อีสุกอีใสพบผื่นที่ท้องและหน้าอกมากกว่าครับ แต่ถ้าเป็นผื่นเยอะๆ ก็พบทั่วตัวก็มีครับ
advertisement
ข้อควรระวัง: จริงๆโรคฝีดาษลิงในระยะแรกๆแยกยากจากอีสุกอีใส หรือ เริมครับเพราะวันแรกๆ ก็มีไข้ มีผื่นแค่ไม่กี่ตุ่ม เช่น มีผื่นตุ่มหนองที่นิ้วมือ หรืออวัยวะเพศ แค่นั้น ไม่ได้มีผื่นทั้งตัว เราก็ไม่รู้ว่าเป็นแค่เริมหรือเปล่า? แต่วันถัดไปถ้าผื่นกระจายทั้งตัวมากขึ้น ก็อาจพอแยกได้ครับ
ข้อควรรู้ ฝีดาษลิงกับฝีดาษรุนแรง (smallpox) ไม่ใช่โรคเดียวกันครับ แม้ว่าเชื้อไวรัสจะอยู่ในตระกูลเดียวกัน แต่ไม่ใช่เชื้อเดียวกัน ความรุนแรงต่างกันมากครับ ฝีดาษรุนแรง (smallpox) อัตราการตายสูงมาก หรือเรียกว่าไข้ทรพิษ ปัจจุบันไม่มีโรคนี้แล้วครับ ฝีดาษลิงมีความรุนแรงน้อยกว่า แต่ผื่นตุ่มหนอง เมื่อหายก็อาจเป็นรอยแผลเป็นได้ครับ
ติดต่อได้อย่างไร?
ฝีดาษลิงติดต่อได้จากการสัมผัสตุ่มหนองจากคนไข้ หากเรามีบาดแผลที่มือ แม้จะเป็นแผลเล็กที่เราไม่รู้ เราก็ติดเชื้อฝีดาษได้ครับ
ดังนั้นการล้างมือบ่อยๆจึงมีความสำคัญครับ รวมถึงการทำความสะอาดพื้นผิว ก็ฆ่าเชื้อได้ครับ ส่วนการไอหรือจามก็อาจติดฝีดาษได้ แต่เชื้อไวรัสมีขนาดใหญ่ จะพุ่งไปตามน้ำลายหรือเรียกว่า Droplet แต่ก็ไปได้ไม่ไกลนักครับ นึกถึงเราเขวี้ยงลูกบอลลูกใหญ่ๆ มันก็คงไปได้ไม่ไกลเท่าไร ดังนั้นการใส่หน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างพอสมควรก็ป้องกันได้ครับ
ความคิดเห็นจากชาวเน็ต
advertisement
จะเห็นได้ว่า ผื่นอีสุกอีใสแทบไม่ขึ้นฝ่ามือ ฝ่าเท้าเลยครับ แต่ฝีดาษจะขึ้นที่มือและเท้า ดังนั้นให้เราสังเกตอาการดีๆ นอกจากนี้ควรระมัดระวังตัวและป้องกันตัวให้ดี เพื่อจะไม่เกิดโรคฝีดาษลิงได้ง่าย
เรียบเรียงโดย : thaihitz.com ขอขอบคุณข้อมูลจาก ห้องฉุกเฉินต้องรู้
advertisement